นายศรายุธ อัสสมกร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากและวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนที่มีผลสำเร็จด้านอัตราการตั้งครรภ์ในระดับสากลและมีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราความสำเร็จของผู้ที่มาใช้บริการของศูนย์ฯ อยู่ที่ 43% หากเทียบในระดับสากลที่อยู่ในระดับ 30-40% และนอกจากจะรักษาผู้มีบุตรยากแล้ว เจตนารมย์ของทางศูนย์คือ ต้องการลดการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรม เราจึงเน้นการให้ความรู้แก่กลุ่มแพทย์และประชาชนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะเทคนิค “พีจีดี” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการคัดกรองตัวอ่อนให้ปลอดโรคทางพันธุกรรมก่อนการตั้งครรภ์ อาทิ โรคธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างใหญ่มากในเอเชีย
“การที่แพทย์จากศูนย์เราได้รับเชิญไปบรรยายพิเศษที่ประเทศจีนจึงเป็นเสมือนการตอบโจทย์วัตถุประสงค์หลักของเราที่ต้องการให้ประเทศอื่นๆ ได้เห็นถึงศักยภาพ ความรู้ความสามารถ ของบุคลากรทางการแพทย์ไทย รวมทั้งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ไปเผยแพร่ในกลุ่มเอเชียด้วยกัน เพราะจีนเป็นประเทศใหญ่ที่มีประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก การที่เราได้ไปให้ความรู้จึงเป็นการช่วยลดการถ่ายทอดโรคพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่นที่สามารถแพร่ไปได้อย่างรวดเร็ว และถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่บุคลากรในประเทศจีนหันมาให้ความสำคัญกับการวางแผนครอบครัว และเห็นความสำคัญ กับโรคภัยที่จะเกิดเพิ่มมากขึ้น” กรรมการผู้จัดการ ศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที.กล่าว
ทางด้าน นาง หลิน ชิว ฮว๋า รองประธานกรรมการ กลุ่มโรงพยาบาลไป่เจีย (Baijia) ในประเทศจีน กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลในเครือมีทั้งหมด 8 แห่ง โดยเน้นรูปแบบการให้บริการแก่สตรีในด้านสูตินรีเวช และสูติเวช ซึ่งจากการให้บริการในด้านดังกล่าวทำให้พบว่า ปัจจุบันมีคู่สามีภรรยาที่ประสบปัญหาการมีบุตรยาก และนอกจากปัญหาการมีบุตรยากที่ประชากรจีนกำลังประสบอยู่นั้น อีกปัญหาหนึ่งที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนั่นก็คือ การถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรม อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ธาลัสซีเมีย ไวรัสตับอักเสบบี หอบหืด เป็นต้น ซึ่งจากการสำรวจโดยรวมพบว่าในประเทศจีนมีการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมสูงประมาณ 3,000 โรค แต่เนื่องด้วยในประเทศจีนมีข้อจำกัดในด้านการรักษา วิธีที่สามารถทำได้คือใช้วิธี coarse meshed sieve (การคัดกรองในเบื้องต้น) แต่ถ้าหากเป็นโรคที่ร้ายแรงอย่างเบต้าธาลัสซีเมีย ก็จะแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาลหน่วยงานของรัฐเพื่อให้ยืนยันผลการตรวจที่ละเอียดเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการเรียนเชิญแพทย์จากศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. มาบรรยายให้ความรู้ในด้านสูตินรีเวช แก่คณะแพทย์ของโรงพยาบาลควีนอลิซาเบธแห่งเมืองกวางเจา ประเทศจีน ซึ่งในประเทศไทยถือว่ามีอัตราความสำเร็จทั้งในด้านการรักษาผู้มีบุตรยากและด้านการคัดกรองพันธุกรรมตัวอ่อนสูงมาก
ทางด้านแพทย์จากศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. กล่าวว่า ถือเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเชิญให้มาบรรยายพิเศษในครั้งนี้ ประเทศจีนถือเป็นประเทศใหญ่ที่มีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพมากมาย การที่ได้มีโอกาสมาในครั้งนี้จึงถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และมาร่วมพูดคุยถึงกรณีโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ซึ่งด้วยข้อจำกัดในประเทศจีนทำให้โรงพยาบาลเอกชนต่างๆ ไม่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร จึงต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลของรัฐ เป็นผลทำให้ผู้ป่วยต้องรอเวลาในการรักษานาน เกินกว่า 6 เดือน การที่แพทย์จากศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. มาช่วยสอนด้านเทคนิค “พีจีดี” และช่วยอบรมในด้านต่างๆ อย่างเช่น การเตรียมคนไข้เพื่อให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพซึ่งจะนำไปสู่การได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพ หรือแม้แต่เรื่องการลดปัญหาภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการให้ยาแก่คนไข้ในผู้ที่มีไข่เยอะเกินไป จึงถือเป็นประโยชน์แก่กลุ่มคนไข้ในประเทศจีนมาก