“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเอไลฟ์ ได้ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของบรรษัทภิบาลที่ดี ให้บริการอยู่บนความถูกต้องตามจริยธรรมอย่างเคร่งครัด รวมถึงการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก ในการมอบสิ่งที่ดีที่สุดทั้งผลิตภัณฑ์ การให้คำปรึกษาด้านการวางแผนการเงิน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นเพื่อนคู่คิดให้กับลูกค้าได้วางแผนทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุด” นายเชาว์พันธุ์ กล่าว
ขณะที่ผลการดำเนินงานในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เอไลฟ์ มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนสินทรัพย์ คาดว่าสิ้นปี 2555 จะอยู่ที่ 2,400 ล้านบาท โดยเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 5 ปีที่ผ่านมา ถึง 11.5 เท่า(ปี 2551 มีสินทรัพย์ 208 ล้านบาท) อีกทั้งผลการดำเนินงานด้านเบี้ยใหม่ปีแรก และเบี้ยรับรวมในช่วง 3 ไตรมาส ของปี 2555 (มกราคม-กันยายน) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเติบโตเพิ่มขึ้น 40%และ 42% ตามลำดับ สูงกว่าอัตราเติบโตเฉลี่ยของทั้งธุรกิจที่อยู่ประมาณ 20% เนื่องจากผลงานที่ผ่านมาทุกช่องทางสามารถสร้างการเติบโตในทิศทางที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามภายหลังจากการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน จำกัด แล้วแผนการดำเนินธุรกิจระยะต่อไป บริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากร ช่องทางการให้บริการที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ายิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของเทเลมาร์เก็ตติ้ง และทีมที่ปรึกษาทางการเงิน (A Life Plan) หรือ เอ ไลฟ์ แพลน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ธุรกิจ
เติบโตต่อไปข้างหน้า พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมผลักดันธุรกิจให้สามารถปรับตัวเข้าสู่ภาวการณ์การแข่งขันในเชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต