สค. ผนึกภาคเอกชนวิเคราะห์การทำงานเชิงลึก ชี้ปี 56 ต้องไทยเผชิญความเปลี่ยนแปลงวิกฤตโลก หวังประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม-การค้าของไทย

พฤหัส ๐๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๒ ๑๑:๐๔
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน 2555 นี้ กรมฯจะจัดสัมมนา ”ทิศทางใหม่ DITP” ณ โรงแรมอิสติน แกรนด์ สาธร เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน ภายหลังการปรับเปลี่ยนบทบาทและภารกิจจากกรมส่งเสริมการส่งออกเป็นกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งภารกิจจะครอบคลุมทั้งด้านการส่งเสริมการส่งออกและการส่งเสริมการนำเข้าปัจจัยการผลิตและสินค้าที่จำเป็นต่อการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ อีกทั้งสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศยุคใหม่ และเป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและการค้าของไทย

“การปรับบทบาทและภารกิจใหม่ที่ต้องดูแลเรื่องการนำเข้าด้วยนั้น ถือเป็นงานที่เพิ่มมากขึ้นอีก จึงต้องการให้ภาคเอกชนมีส่วนช่วยให้ข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นต่อการทำงานของกรมฯ สนับสนุนและเข้ามาเป็นกลไกในการผสานการทำงานและบูรณาการอย่างใกล้ชิดภายใต้บริบทใหม่ เพื่อให้สอดรับกับความคาดหวัง และความต้องการของผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศ(stakeholder)ที่แท้จริง เพื่อพัฒนาไปสู่การค้าแบบยั่งยืน”นางศรีรัตน์ กล่าว และว่า กรมฯจึงได้ปรับวิสัยทัศน์ใหม่ เพื่อไปสู่การ “เป็นหน่วยงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศชั้นนำในภูมิภาคเอเซีย มีมาตรฐานการดำเนินงานที่เป็นเลิศ และพร้อมปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของไทยให้เป็นสากลและยั่งยืน”

ทั้งนี้สค.มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการไทยในการดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยการอำนวยความสะดวกเพื่อลดต้นทุน พัฒนาและส่งเสริมมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการของไทย ชี้แนะลู่ทางการเข้าตลาด รักษาและขยายตลาดการค้าในต่างประเทศ และร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาให้ไทยเป็นประตูการค้าสำคัญของภูมิภาคเอเซีย

นางศรีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ปรับเปลี่ยนทุกขณะในปี 2556 กรมฯไม่อาจนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากประเทศไทย หรือ ประเทศต่างๆ ยังต้องพึ่งพากันมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจโลก ระบบการขนส่งและการสื่อสารที่มีความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ(ภูมิภาค)มากขึ้น และภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น มีระบบซัพพลายเชนเน็ตเวิร์คในการผลิต การค้าและการตลาด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๕๙ บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) จัดงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ครั้งที่ 53
๑๑:๒๗ TSE ติดปีก! เตรียมรับทรัพย์ขายหุ้นบ.ร่วมค้า TSR 60% มูลค่า 1.79 พันลบ. ผถห.ไฟเขียวเพิ่มทุนขาย PP 211.77
๑๑:๓๒ สงกรานต์นี้ ร่วมฉลองไปกับ One Bangkok, One Lagoon Splashing Songkran Rhythms ที่สุดของความสนุก สดชื่น
๑๑:๓๕ Xbox เตรียมจัดงาน Xbox Games Showcase พร้อมเผยอัปเดตล่าสุดจาก The Outer Worlds 2
๑๑:๐๐ '137 ดีกรี(R)' เอาใจคนรักสุขภาพเปิดตัว นมอัลมอนด์โปรตีนสูง 11 กรัม พร้อมดึง 'ชมพู่ อารยา' เป็นพรีเซนเตอร์ปีที่สอง
๑๐:๑๕ ผถห.TFG อนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.225 บ./หุ้น รับทรัพย์ 24 เม.ย.นี้ ปักธงรายได้ปี 68 เติบโต 10-15%
๑๐:๕๙ รพ.จุฬาฯ ปลื้ม ยอดใช้งานแอป CheckPD ทะลุ 50% ชูวาระวันพาร์กินสันโลก ย้ำให้ผู้คนตระหนักรู้จักโรคพาร์กินสัน
๑๐:๐๗ ภูเขาฟ่านจิ้งซาน: สวรรค์บนยอดเขาที่นักเดินทางห้ามพลาด
๑๐:๐๐ เสริมเกราะป้องกันภัยในครอบครัว มูลนิธิศุภนิมิตฯ เปิดพื้นที่กระชับสัมพันธ์พ่อแม่-ลูก ผ่านหลักสูตรครอบครัวสุขสันต์
๑๐:๔๗ จุดเปลี่ยนนโยบายภาษีสหรัฐฯ: ภาษีทรัมป์ เขย่าโลก จับทิศทางการค้าและการปรับตัวของคริปโตในไทย