สำหรับรายละเอียดของกองทุนจะแบ่งออกเป็นการลงทุนใน 2 ส่วน คือ ลงทุนในทรัพย์สินซึ่งเป็น Freehold โดยการซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้าของ TFD ที่นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี จำนวน 12 โรงงาน มีพื้นที่เช่ารวม 17,850 ตารางเมตร และที่นิคมอุตสาหกรรม นวนคร จำนวน 2 โรงงาน มีพื้นที่เช่ารวม 2,160 ตารางเมตร และลงทุนในทรัพย์สินซึ่งเป็น Leasehold โดยการรับโอนสิทธิการเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้าของบริษัท โทเทิ้ลอินดัสเตรียลเซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ TFD ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี จำนวน 18 โรงงาน มีพื้นที่เช่ารวม 19,350 ตารางเมตรโดยเมื่อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จัดตั้งแล้วเสร็จจะมีโรงงานและคลังสินค้ารวม 32 โรง มีพื้นที่เช่ารวม 39,360 ตารางเมตร มีมูลค่าซื้อขายประมาณ 970 ล้านบาท
การจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นี้คาดว่าจะแล้วเสร็จ และสามารถรับรู้รายได้ได้ทันทีภายในไตรมาส 4/55นี้ซึ่งจะทำให้ TFD มียอดรายได้รวมเติบโตพุ่งขึ้นจากที่ได้ประมาณการไว้อย่างก้าวกระโดด จากประมาณการรายได้เดิมของปี 2555 อยู่ที่ 903 ล้านบาท จะเพิ่มเป็นกว่า 1,800 ล้านบาท หรือมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นมากกว่า 100%จากประมาณการเดิมทั้งนี้ การจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของ TFD ดังกล่าวปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการส่งเอกสารทั้งหมดให้ กลต.พิจารณา ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดตั้งได้ภายในไตรมาส 4 ตามแผนงาน
สำหรับนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดีเฟส 2 ซึ่งบริษัทมีเนื้อที่ดินพร้อมพัฒนาอีกกว่า 1,000 ไร่ อยู่ระหว่างการจัดแบ่งผังที่ดินเพื่อขายและการจัดทำรายงาน EIA จะเริ่มเปิดการขายภายในไตรมาส 4/55 นี้ คาดว่าจะมีผลต่อผลประกอบการของปี 2556 ที่จะมียอดรายได้เติบโตไม่ยิ่งหย่อนไปจากปี 2555