ย้อนยุคกับธรณี ตอนที่ 2

อังคาร ๑๓ พฤศจิกายน ๒๐๑๒ ๑๐:๓๒
ต่อจากตอนที่แล้วเราได้รับทราบในเรื่องของธรณีวิทยากับชีวิตประจำวันในอดีตของมนุษย์กันบ้างแล้วในตอนนี้ก็ยังได้รับทราบข้อมูล จากคุณสมศักดิ์ โพธิสัตย์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรธรณีได้กรุณาถ่ายทอดความรู้เรื่องของธรณีวิทยา เรามาเริ่มกันต่อยุคหินใหม่ มีอายุประมาณ ๑๐,๐๐๐-๖,๐๐๐ ปีมาแล้ว ในประเทศไทยพบหลักฐานที่บ้านเก่า อ.จรเข้เผือก จ.กาญจนบุรี มีเครื่องมือหิน เป็นขวานหินขัด ขวานถาก สิ่วหินขัด หินลับ หินบด ภาชนะดินเผา นอกจากนั้นยังในอีกหลายแห่ง เช่น อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จ.ลพบุรี จ.ชลบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.ขอนแก่น และ จ.สุราษฎร์ธานี

หินที่ใช้ผลิตเครื่องมือหินก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละแหล่งโดยใช้หินท้องที่หรือหินประจำถิ่นที่มีอยู่ในพื้นที่เป็นหลักซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นก้อนกรวดตะพักลำน้ำที่มีลักษณะกลมมนหรือมีรูปเหลี่ยมมนขนาดต่างๆกัน หรือเศษหินหักพังหล่นลงมากองเชิงเขาที่ยังคงเหลี่ยมมุมขนาดต่างๆ ถ้าเป็นประเภทแรกก็จะประกอบด้วยหินหลากหลายชนิดที่อยู่บริเวณต้นน้ำขึ้นไป แต่ประเภทหลังจะเป็นหินที่อยู่บนภูเขาบริเวณนั้นๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นองค์ประกอบของชั้นหินและตะกอนยุคควอเทอร์นารี

หินกรวดที่ใช้ผลิตเครื่องมือหินที่พบในไทยส่วนใหญ่จะเป็นหินแข็งเหนียวและแกร่ง สามารถหาได้ในบริเวณที่อาศัยและไกลออกไปในถิ่นอื่นอีกด้วย เช่น หินเชิร์ต แร่ควอรตซ์ หินควอร์ตไซต์ หินไรโอไรต์ หินไนส์ หินชิสต์ หินทรายเนื้อละเอียด หินชนวน หินปูน และหินชนิดอื่นก็มีแต่ไม่ค่อยนิยมเพราะคุณภาพด้อยกว่า ส่วนในประเทศอื่นก็มีแตกต่างไปบ้างแล้วแต่หินที่พบในถิ่นนั้นๆ เช่น หินเหล็กไฟหรือหินฟลินต์ ออบซิเดียนหรือแก้วภูเขาไฟสีดำ หินคาลซิโดนีและจัสเปอร์ซึ่งเป็นหินเชิร์ตชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อกะเทาะแล้วจะมีคมและแหลม หินดังกล่าวนอกจากใช้ประดิษฐ์เครื่องมือหินแล้วยังใช้ประดิษฐ์เครื่องประดับหินต่างๆและยังใช้หินและแร่ที่มีเนื้ออ่อน หรือมีสีสรรอีกด้วย เช่น หินเซอร์เพ็นทิไนต์ แร่ควอรตซ์สีต่างๆ เป็นต้น

เครื่องมือเครื่องใช้และเครื่องประดับหินเหล่านี้มีการพัฒนาทั้งการเลือกใช้วัสดุ รูปแบบ วิธีการผลิต จำนวนที่ผลิตตามลำดับ อันแสดงถึงการมีวิวัฒนาการทางสมองที่รู้จักใช้สภาพธรณีวิทยาและการนำเอาทรัพยากรธรณีมาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน การสร้างชุมชนจนเกิดเป็นอารยธรรมประจำถิ่น และในช่วงปลายยุคหินอาจเกิดการแลกเปลี่ยนผลผลิตและอารยธรรมเกิดขึ้น จนกระทั่งการรู้จักจุดไฟและใช้ไฟที่มีความร้อนสูงมากๆอันนำมาสู่การรู้จักเทคโนโลยีการประดิษฐ์ภาชนะดินเผา การหลอมและถลุงโลหะต่างๆในยุคต่อมาที่ทางโบราณคดีเรียกว่า “ยุคโลหะ” แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าไม่มีการใช้เครื่องมือหิน ตรงกันข้ามกลับมีการใช้เครื่องมือหินในการขุดหาแร่ต่างๆมาใช้ประดิษฐ์เครื่องมือและเครื่องประดับโลหะอันนำมาสู่การแบ่งยุคโลหะ นอกจากนั้นยังรู้จักเทคนิคการตัดหินและนำหินชนิดต่างๆมาในการก่อสร้าง เช่นวิหารแห่งมอลต้า ที่เกาะมอลต้าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นต้น

“ยุคโลหะ” ในตอนต้นยุคคงเริ่มต้นแบบโลหะปนหินดังได้กล่าวแล้วเมื่อประมาณ ๗,๐๐๐ ปีที่ผ่านมาแล้ว สันนิษฐานเองว่าการรู้จักนำโลหะมาใช้คงโดยการที่นำหินที่มีแร่ติดอยู่กับหินมาใช้แล้วพบแร่ติดหินมีสีสันและคุณสมบัติที่น่าสนใจมีความวาวโลหะ อ่อนแต่เหนียวพอที่เมื่อทุบแล้วไม่แตกแต่ยังแผ่ออกหรือยืดออกได้เช่น โลหะทองแดงธรรมชาติ (native copper) หรือทองคำธรรมชาติ (native gold) เป็นต้น ต่อจากนั้นคงมีวิวัฒนาการโดยใช้ไฟหลอมและถลุงแร่ทองแดงซัลไฟด์ในเวลาต่อมาที่เรียกว่า “ยุคทองแดงปนหิน” ซึ่งเป็นสมัยแรกของยุคโลหะเพื่อใช้ผลิตอาวุธ เครื่องประดับ ภาชนะและของใช้ประจำวัน ซึ่งช่วงนี้รู้จักใช้ทองคำมาทำเครื่องประดับด้วย

มีรายงานใน “๑๐๐ ปี กรมทรัพยากรธรณี” โดยเกษตร พิทักษ์ไพรวัลย์ ว่าได้ตรวจพิสูจน์ขวานโลหะจากแหล่งโบราณคดีโนนนกทา ต.บ้านโคก อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ขนาด ๘.๘x๔.๖ -๕.๓x๒.๑ ซม. รายงานว่าเป็นขวานที่ทำจากโละทองแดงธรรมชาติโดยการทุบเย็น ไม่ใช้ไฟ อายุ ๕,๐๐๐ ปีมาแล้ว (ผู้เขียนเองเคยสำรวจพบแหล่งแร่ทองแดง-ยูเรเนียม ในแอ่งภูเวียง จึงเข้าใจว่าในสมัยนั้นคงใช้แร่ทองแดงในแอ่งภูเวียงที่มีอยู่หลายแห่งเป็นวัตถุดิบ) ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวจากสมัยทองแดงปนหินเข้าสู่ “ยุคสำริด” (Bronze Age) ซึ่งเริ่มเมื่อประมาณ ๕,๒๐๐ ปีมาแล้ว ซึ่งเป็นยุคที่มนุษย์รู้จักนำแร่โลหะชนิดอื่นเช่นตะกั่ว และดีบุก แถมยังรู้เทคนิคการทำโลหะผสมทองแดง-ดีบุก-ตะกั่ว ที่เรียกว่าโลหะสำริด ที่มีรายงานว่าพบแหล่งสำริดในไทยหลายแห่งด้วยกันที่สำคัญนอกจากแหล่งโนนนกทาแล้วยังมีแหล่งบ้านนาดี อ.หนองหาร จ.อุดรธานี ที่นอกจากเครื่องสำริดเช่นกำไล พาหุรัด หัวลูกศรและเบ็ดตกปลาแล้วยังพบเตาถลุง เบ้าหลอม และแบบหล่อทำด้วยหินทราย ที่ แหล่งอารยะธรรมบ้านเชียงอันเลื่องชื่อของ จ.อุดรธานี โดยใช้แร่ทองแดงที่ (ผู้เขียนสันนิษฐานเอง) จากแหล่งแร่ทองแดงที่อยู่ใกล้ที่สุดคือแหล่งแร่ทองแดงภูโล้น ริมแม่น้ำโขง อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งขุดแร่ทั้งบนดินและเจาะอุโมงค์ใต้ดิน ในพื้นที่ประมาณ ๑ ตร.กม. แหล่งโนนป่าหวาย อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ที่เป็นแหล่งที่มีการถลุงแร่ทองแดงที่ใหญ่อาจจะเป็นที่สุดของไทยและประเทศในแถบนี้เมื่อประมาณ ๒,๐๐๐ ปีก่อนคริสต์ศตวรรษ และที่บ้านท่าแค อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ทางโบราณคดีเชื่อว่าใช้เทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญและทันสมัยที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าที่อื่นๆมีการผลิตระดับที่เรียกว่าเป็นอุตสาหกรรม สามารถหล่อทองแดงและผลิตสำริดที่มีเนื้อโลหะบางมาก โดยมีการทำเหมืองแร่ทองแดงที่เขาพุคา เขาวงพระจันทร์และเขาพระบาทน้อยที่มีแร่เหล็กปนอยู่ด้วย จึงพบว่ามีการถลุงแร่เหล็กในแหล่งเดียวกันโดยใช้แร่เหล็กจากแหล่งนี้และแหล่งเขาทับควาย และมีการถลุงเหล็กกันอย่างแพร่หลายในหลายพื้นที่ของจังหวัดลพบุรีในยุคต่อๆมาจนถึงยุคประวัติศาสตร์

“ยุคเหล็ก” (Iron Age) เมื่อประมาณ ๓,๒๐๐-๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว เป็นยุคที่มนุษย์มีวิวัฒนาการก้าวหน้ามาก เพราะสามารถคิดค้นเทคโนโลยีการถลุงแร่เหล็กและการหล่อเหล็กซึ่งมีความยุ่งยากกว่าและต้องใช้ไฟที่อุณหภูมิสูงกว่าการถลุงแร่ทองแดง แร่ตะกั่ว และแร่ดีบุก และการหลอมโลหะผสมสำริดมาก แต่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและแพร่หลายเพราะแข็งกว่า หาแร่เหล็กได้ง่ายกว่า และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่เครื่องประดับ ภาชนะใช้สอย เครื่องมือการเกษตร ใช้ในการก่อสร้าง สถาปัตยกรรม และโดยเฉพาะการผลิตอาวุธที่สร้างความเข้มแข็งให้กองทัพอย่างมาก

ในประเทศไทยพบเครื่องเหล็กในแหล่งโบราณคดีหลายแห่งที่ปนอยู่และทับซ้อนอยู่ในชุมชนและแหล่งอารยธรรมสำริดหลายแห่งดังได้กล่าวมาบ้างแล้วแต่ยังไม่สามารถหาหลักฐานว่ามีการผลิตเหล็กในช่วงต้นๆของยุคเหล็กถึงแม้ว่าจะค้นพบเตาถลุงเหล็กแพร่หลายในจังหวัดลพบุรีเช่นที่บ้านดิลัง อ.พัฒนานิคม แต่ก็ย้อนเวลาได้ประมาณตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๑ ต่อเนื่องมาอีกประมาณ ๒๐๐ ปี (เกษตร พิทักษ์ไพรวัลย์ ใน ๑๐๐ ปี กรมทรัพยากรธรณี) ในปลายยุคเหล็กมีการค้นพบวิธีการผลิตแก้ว เพราะมีใช้กันในงานสถาปัตยกรรมและเครื่องประดับ พร้อมๆกับการใช้หินอ่อนในงานก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่แพร่หลายต่างประเทศ

ทรัพยากรธรณีกับชีวิตประจำวันในยุคก่อนประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่น่าศึกษาและค้นคว้าเป็นอย่างยิ่ง ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ผู้อ่านได้รับทราบข้อมูลที่เป็นความรู้ ซึ่งเป็นอีกมุมมองหนึ่งด้านทรัพยากรธรณีต่อโบราณคดีเท่านั้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO