นายสนธยา กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมมีความสำคัญ ยิ่งใหญ่ เกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ ทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนทั้งในด้านชุมชน ครอบครัว ความมั่นคง สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันการทำงานด้านวัฒนธรรมจะต้องทำงานท่ามกลางกระแสของวัฒนธรรมต่างประเทศที่ถาถมเข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างไม่หยุดนิ่ง ดังนั้น กระทรวงวัฒนธรรมจะต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน สำหรับการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม จะสานต่อนโยบายที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(นางสุกุมล คุณปลื้ม) คือ “สืบสาน สร้างสรรค์ บูรณาการ” สืบสาน ได้แก่ การมีแผนและจัดทำแผนให้ผู้ประกอบอาชีพด้านวัฒนธรรม การสร้างโอกาสและส่งเสริมศิลปะสาขาต่าง ๆ การสร้างการมีส่วนร่วมทางด้านวัฒนธรรมโดยให้สภาวัฒนธรรมซึ่งมีถึงระดับตำบลเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก การส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่เข้าใจ เข้าถึงและเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมท้องถิ่นและวัฒนธรรมชาติ รวมถึงการส่งเสริมให้คนไทยได้เข้าพิพิธภัณฑ์เพื่อที่จะได้รู้รากเหง้าของตนเอง สร้างสรรค์ ได้แก่ การนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมไห้ครบวงจร การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด บูรณาการ ได้แก่ ส่งเสริมความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ นอกจากนี้ ยังต้องเพิ่มผลสัมฤทธิ์ให้เกิดขึ้น การสร้างรากฐานทางวัฒนธรรม ความเข้มแข้งทางด้านสังคม และครอบครัว
นายสนธยา กล่าวต่อว่า สำหรับการขับเคลื่อนการทำงานที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ ๑. การพัฒนาเกี่ยวกับสินค้าทางวัฒนธรรม ที่ต้องร่วมกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของการพัฒนาสินค้าทางวัฒนธรรม ๒. การนำทุนทางวัฒนธรรมมาเพิ่มมูลค่าด้านการท่องเที่ยว ตามนโยบานของรัฐบาลที่ตั้งเป้าไว้ว่าภายใน ๓ ปีจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า ๒.๒ ล้านล้านบาท ๓. การพัฒนาบุคลากรทางวัฒนธรรม ร่วมกับกระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการ