รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข หัวหน้าหลักสูตรการบริหารงานบุคคล สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ( Sasin ) เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ของหลักสูตรการบริหารงานบุคคลว่าเน้นเรื่องการสร้างนักบริหารบุคคลมืออาชีพที่พร้อมทำงานในเวทีท้องถิ่นและเวทีเศรษฐกิจระดับสากล เนื้อหาหลักสูตรเน้นสร้างให้นิสิตมีความรู้เรื่องการบริหารบุคคลอย่างเข้มข้น รวมทั้งต้องมีความรู้ขั้นพื้นฐานของสายงานอื่นด้วย เช่นสายการเงิน การบัญชี การตลาด และการปฏิบัติการ เพื่อให้มั่นใจว่าบัณฑิตที่จบการศึกษาจะมีความคล่องตัวสามารถวางแผนกลยุทธ์และปฏิบัติงานร่วมกับผู้บริหารสายงานอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเน้นการทำงานเป็นทีมและการพัฒนาภาวะผู้นำของนักบริหารงานบุคคล พัฒนาทักษะการสื่อสาร การนำเสนอและการเจรจาต่อรอง ปลูกฝังเรื่องจริยธรรมขององค์กร การมีความรับผิดชอบต่อภาคสังคม และการบริหารความหลากหลายทางวัฒนธรรม ฯลฯ ขณะนี้ศศินทร์มี 2 หลักสูตรให้เลือกเรียน คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตด้านการบริหารบุคคลใช้เวลาเรียน 7 เดือน และหลักสูตรทางด้านการบริหารบุคคล ปริญญาโทเรียน 18 เดือน
สำหรับจุดเด่นของหลักสูตรคือ การสร้างกลยุทธ์การบริหาร HR ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ธุรกิจ และการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติจนได้ผลลัพธ์ที่วัดออกมาเป็นตัวเลขได้ โดยนิสิตของทั้งสองหลักสูตรต้องเรียนหลักการบริหารเชิงกลยุทธ์ การสรรหา พัฒนา ประเมินผล การบริหารผลตอบแทน การพัฒนาองค์กร รวมทั้งหลักการตลาดเบื้องต้นเพื่อสามารถสร้างแบรนด์นายจ้างอย่างมีประสิทธิผล ส่วนหลักสูตรปริญญาโทต้องเรียนเพิ่มเรื่องหลักการบริหารการเงิน บัญชี การตลาด การปฏิบัติการ การตรวจสอบวัดผลการทำงานของแผนก HRM การบริหารHRM ระดับโลกาภิวัฒน์และการวิจัยในงาน HRM เนื่องจากงาน HRM ในปัจจุบันต้องมีการเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูลแสดงตัวเลขหรือสถิติเพื่อช่วยในการตัดสินใจและคาดการณ์การลงทุนในเรื่อง HR ที่แม่นยำขึ้น เช่นการประเมินความสามารถของบุคลากรในการแข่งขัน ความสามารถของแผนกงานบุคคลในการสรรหา พัฒนา และรักษาบุคลากรระดับ Talent ซึ่งมีผลทำให้องค์กรมีพนักงานคนเก่งที่สร้างผลประกอบการและกำไรให้องค์กรอย่างยั่งยืน
ตลอดเวลากว่า 20 ปีของการก่อตั้งหลักสูตรการบริหารงานบุคคล ศศินทร์ได้ให้ความสำคัญกับความเป็นสากล และมีการพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา นิสิตจะต้องเข้าใจมิติและประเด็นของการบริหารจัดการตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศและนานาประเทศ ลักษณะเด่นข้อนี้ของศศินทร์ทำให้ผู้ที่จบการศึกษาออกไปมีความพร้อมและศักยภาพสามารถทำงานกับองค์กรต่าง ๆ อย่างมืออาชีพ เห็นได้จากความพึงพอใจของบริษัทนายจ้างซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ๆ เช่น บริษัทเชฟรอน ปตท. ธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทบ้านปู จำกัด ( มหาชน) และบริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน) เป็นต้น องค์กรเหล่านี้พบว่านิสิตที่จบหลักสูตรการบริหารงานบุคคลจากศศินทร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยองค์กรอย่างเช่น ปตท. ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังได้จัดทุนการศึกษาให้พนักงานมาศึกษาที่ศศินทร์ด้วย
ดร.ศิริยุพา เปิดเผยเพิ่มเติมถึงคณาจารย์ผู้สอนในหลักสูตร ว่ามีทั้งอาจารย์ไทยที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ อาจารย์ชาวต่างประเทศจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ มหาวิทยาลัยลอนดอน รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญจากสิงคโปร์ที่มาเป็นวิทยากรในการบรรยายในแต่ละวิชา นอกจากนี้ยังได้เชิญซีอีโอที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์จากบริษัทชั้นนำ เช่น คุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา คุณโชค บูลกุล (ฟาร์มโชคชัย กรุ๊ป) ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟ์เลอร์ (บริษัทเมอร์ซีเดส เบนซ์ ประเทศไทย จำกัด) เป็นต้น มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในการทำงาน ทำให้ผู้ที่เข้ามาเรียนในสาขานี้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความความคิดเห็นกับผู้บริหารระดับซีอีโอทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และนิสิตยังมีโอกาสได้เดินทางไปร่วมการสัมมนา HRM ระดับโลกที่สหรัฐอเมริกาทุกปี ทำให้ได้รับฟังการบรรยายสด และแลกเปลี่ยนแนวความคิดใหม่ๆจากผู้บริหารและมืออาชีพด้าน HR จากทั่วโลก เช่น อดีตรองประธานาธิบดี อัล กอร์ ดร. คอนโดลีซซา ไรซ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา เซอร์ริชาร์ด แบรนด์สัน ผู้บริหารและนักธุรกิจชาวอังกฤษ ดร. เดฟ อัลริช กูรูด้านงานบุคคล ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษาที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ และยังทำให้นิสิตที่จบจากสถาบัน บัณฑิตฯ ศศินทร์มีเครือข่าย HR ที่กว้างขวางระดับโลก ทั้งนี้ The Society for Human Resource Management (SHRM) แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสมาคมการบริหาร HRM ที่มีสมาชิกมากที่สุดในโลกได้ร่วมออกแบบหลักสูตรนี้กับศศินทร์และส่งผู้บริหารของ SHRM มาร่วมสอนในหลักสูตรด้วย จึงมั่นใจได้ว่าหลักสูตรการบริหารงานบุคคลของศศินทร์เป็นหลักสูตรนานาชาติอย่างแท้จริง
“บ่อยครั้งที่มีบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งติดต่อเข้ามาที่ศศินทร์เพราะต้องการนิสิตหลักสูตรบริหารบุคคลของเราไปทำงานด้วย จึงสามารถการันตีได้ว่าบัณฑิตของเราได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพ บัณฑิตศศินทร์ได้ทำงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง ได้รับค่าตอบแทนสูง เนื่องจากพวกเขาเก่งรอบตัว ทั้งการบริหาร HR และการบริหารทั่วไป ภาษาอังกฤษดี วิจัยก็ได้ บัณฑิต HR ของศศินทร์พร้อมที่จะทำงานในประชาคม AEC เพราะตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นไป งาน HR จะกลายเป็นงานระดับอินเตอร์ ผู้บริหาร HR ที่ทำงานได้จำกัดเพียงระดับท้องถิ่นจะต้องเร่งพัฒนาตนเองให้สามารถทำงานระดับสากลได้แล้วตั้งแต่บัดนี้มิฉะนั้นจะไม่ทันการณ์ หากต้องการเป็น HR มืออาชีพ ต้องลงทุนในเรื่องการศึกษา HRM ที่เป็นหลักสูตรนานาชาติ ที่ผ่านมารู้สึกภูมิใจที่นิสิตบอกว่าเรียน HRM ที่ศศินทร์แล้วคุ้มค่ามาก เพราะสามารถทำงานกับองค์กรชั้นนำทั้งของไทยและของนานาชาติได้อย่างประสบความสำเร็จ มีความก้าวหน้าในการทำงานอย่างรวดเร็ว” ดร.ศิริยุพา กล่าว
ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข หัวหน้าหลักสูตรการบริหารงานบุคคล ได้รับรางวัลดีเด่นด้านการเรียนการสอนจากกองทุนกาญจนภิเษกเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. 2554 และรางวัลอาจารย์สอนด้านงานบุคคลยอดเยี่ยมแห่งปี 2011 จากสถาบัน CMO Asia ประเทศสิงคโปร์