TISCO Wealth บริการที่ปรึกษาการเงินการลงทุนครบวงจรจากทิสโก้ โดยนายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Senior Vice President, Head of Marketing and Wealth Advisory Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์การลงทุนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม TISCO Wealth จึงเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 5” (TISCO China Trigger 8% Fund # 5) กองทาร์เก็ตฟันด์ลงทุนในหุ้นจีน โดยจะลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ ได้แก่กองทุน Lyxor ETF China Enterprise (HSCEI) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Hang Seng China Enterprise (HSCEI) โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 8% โดยมีอายุโครงการประมาณ 8 เดือน หรือสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% หรือ NAV มีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท
TISCO Wealth ระบุว่า ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากยังเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนในระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งนี้จากข้อมูลการลงทุนในตลาดหุ้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา พบว่าเม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย โดยประเทศที่มีแรงซื้อเข้ามากที่สุด คือ ตลาดหุ้นจีน โดยปริมาณเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นจีนปรับสูงขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นจีนเป็นตลาดที่สร้างผลตอบแทนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก (Top Performer) โดยคาดว่าตลาดหุ้นจีนจะมีเม็ดเงินไหลเข้าเป็นจำนวนมาก และมีทิศทางที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ดังนั้น TISCO Wealth ยังคงแนะนำการลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) โดยเน้นที่ตลาดหุ้นจีน
ทั้งนี้เศรษฐกิจจีนยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมทั้งราคาหุ้นถูกเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา นอกจากนี้หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของจีนปรับตัวตกลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ 1.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ Reserve Requirement Ratio ปัจจุบันอยู่ที่ 18% ซึ่งยังคงเป็นระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยของจีน คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 6% ซึ่งเมื่อจีนมีการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินคาดว่าจะส่งผลบวกต่อภาพการลงทุนในจีน เพราะที่ผ่านมาพบว่าทุกครั้งหลังจากทางการจีนผ่อนคลายนโยบายการเงิน ภายใน 3 เดือนหลังจากนั้น ตลาดหุ้นจีนมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10%
โดย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 5” (TISCO China Trigger 8% Fund # 5) มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 8 เดือน หรือสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% โดยเปิดเสนอขายเพียงครั้งเดียว ตั้งแต่วันนี้ — 27 พฤศจิกายน 2555 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท ทั้งนี้ ผู้สนใจวสามารถติดต่อได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4