-รายได้จากธุรกิจแม่พิมพ์ และชิ้นส่วน เพิ่มขึ้น 63% จาก Q3/54 เนื่องจากปริมาณงานชิ้นส่วนของลูกค้าค่ายรถยนต์ต่าง ๆ เช่น Nissan, GM, Isuzu ฯลฯ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและยานยนต์ไทย และโครงการคืนภาษีรถคันแรก
-รายได้จากธุรกิจรับจ้างประกอบ และพ่นสี เพิ่มขึ้น 44% จาก Q3/54 เนื่องจากปริมาณงานรับจ้างประกอบ ตัวถังและพ่นสีรถปิกอัพ Nissan และงานพ่นสีรถบรรทุกขนาดกลาง Isuzu เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ปริมาณงานของลูกค้ากลุ่มเครื่องจักรอุตสาหกรรม และเครื่องจักรกลทางการเกษตร เช่น Komatsu, Kobelco , Yanmar และอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตเพื่อการส่งออก ก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากเช่นเดียวกัน
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในรอบ 9 เดือนของปี 2555 นี้ บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,600 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่สูงกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 385 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับในไตรมาสสุดท้าย บริษัทคาดว่ายังคงมีแนวโน้มการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีการเติบโตของรายได้ไม่น้อยกว่า 35% เนื่องจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนแห่งใหม่ที่จังหวัดระยองได้เริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการขยายการลงทุนในด้านต่างๆ เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เช่น การลงทุนติดตั้งเครื่องจักรผลิตชิ้นส่วน การลงทุนในเครื่องจักรใหม่สำหรับงานแม่พิมพ์และอุปกรณ์จับยึด รวมถึงการขยายห้องพ่นสีขนาดเล็ก และการศึกษาการลงทุนห้องพ่นสีขนาดใหญ่เพิ่มเติม เพื่อรองรับงานรับจ้างประกอบและพ่นสี ให้ลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ รถบรรทุก กลุ่มเครื่องจักรอุตสาหกรรม และเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งมีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูงทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นบริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่าการเจริญเติบโตของบริษัทในปีนี้จะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ และสูงกว่าการเติบโตของตลาดรถยนต์โดยรวม
บริษัทฯ มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจากชื่อเสียงและศักยภาพในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ครบวงจรของบริษัท จะทำให้บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน