คุณสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ เปิดเผยว่า “ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นนั้น มีปัจจัยหลักมาจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจชิ้นส่วน รับจ้างประกอบ และพ่นสี จากลูกค้าทั้งกลุ่มยานยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม และเครื่องจักรกลทางการเกษตร ที่มีการเจริญเติบโตเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วอย่างมาก ซึ่งผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2555 แยกตามรายธุรกิจดังนี้
-รายได้จากธุรกิจแม่พิมพ์ และชิ้นส่วน เพิ่มขึ้น 63% จาก Q3/54 เนื่องจากปริมาณงานชิ้นส่วนของลูกค้าค่ายรถยนต์ต่าง ๆ เช่น Nissan, GM, Isuzu ฯลฯ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและยานยนต์ไทย และโครงการคืนภาษีรถคันแรก
-รายได้จากธุรกิจรับจ้างประกอบ และพ่นสี เพิ่มขึ้น 44% จาก Q3/54 เนื่องจากปริมาณงานรับจ้างประกอบ ตัวถังและพ่นสีรถปิกอัพ Nissan และงาน พ่นสีรถบรรทุกขนาดกลาง Isuzu เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ปริมาณงานของลูกค้ากลุ่มเครื่องจักรอุตสาหกรรม และเครื่องจักรกลทางการเกษตร เช่น Komatsu, Kobelco, Yanmar ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตเพื่อการส่งออก ก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากเช่นเดียวกัน”
คุณสมพงษ์ ยังกล่าวต่อไปว่า “สำหรับผลประกอบการของบริษัทในรอบ 9 เดือนของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,600 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่สูงกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 385 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับในไตรมาสสุดท้าย บริษัทฯ คาดว่ายังคงมีแนวโน้มการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมแล้วในปี 2555 บริษัทฯ คาดว่าจะมีการเติบโตของรายได้ไม่น้อยกว่า 35% เนื่องจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนแห่งใหม่ที่จังหวัดระยองได้เริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการขยายการลงทุนในด้านต่างๆ เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เช่น การลงทุนติดตั้งเครื่องจักรผลิตชิ้นส่วน การลงทุนในเครื่องจักรใหม่สำหรับงานแม่พิมพ์และอุปกรณ์จับยึด รวมถึงการขยายห้องพ่นสีขนาดเล็ก และการศึกษาการลงทุนห้องพ่นสีขนาดใหญ่เพิ่มเติม เพื่อรองรับงานรับจ้างประกอบและพ่นสี ให้ลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ รถบรรทุก กลุ่มเครื่องจักรอุตสาหกรรม และเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งมีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูงทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ดังนั้นบริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่าการเจริญเติบโตของบริษัทในปีนี้ จะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ และสูงกว่าการเติบโตของตลาดรถยนต์โดยรวม ทั้งนี้บริษัทฯ มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจากชื่อเสียงและศักยภาพในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ครบวงจรของบริษัท จะทำให้บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน”
หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงผลการดำเนินงาน คุณสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ยังพาคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมภายโรงงานด้วยตัวเอง เพื่อตอกย้ำศักยภาพทั้งเครื่องจักรและบุคลากรในด้านอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และการผลิตรถยนต์ที่ได้มาตรฐานสากลจนเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ซึ่งภายในโรงงานแบ่งพื้นที่ออกเป็น
-พื้นที่ประกอบ 18,480 ตรม.
-พื้นที่ผลิตแม่พิมพ์และอุปกรณ์จับยึด 5,155 ตรม.
-พื้นที่ผลิตชิ้นส่วน (Stamping) 5,910 ตรม.
-พื้นที่จุ่มป้องกันสนิมและทำสี 4,200 ตรม.
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยขั้นตอนการผลิตรถ TR Transformer รถที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นสำหรับบุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบรถ Hummer ในงบประมาณที่ไม่ไกลเกินเอื้อม ทั้ง 7 ขั้นตอน ตั้งแต่ต้นจนจบ ได้แก่
1.) Design คือ การพัฒนาและออกแบบโดย ทีม R&D and Engineering
2.) Tooling & Stamping คือ การออกแบบแม่พิมพ์ และผลิตชิ้นส่วน
3.) Unfixed คือ การเตรียมรถสำหรับ Line ประกอบ
4.) Assembly คือ การประกอบแชสซีส์ และตัวถังด้วยเครื่องจักร
5.) Painting คือ การกระบวนการชุบสี และ EDP ป้องกันสนิม
6.) Trimming คือ ประกอบอุปกรณ์ภายในรถเบาะนั่ง และ Trim pad
7.) Inspection คือ การตรวจสอบคุณภาพ
จากจุดเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ประกอบตัวถังรถบรรทุก และการสร้างมิติใหม่ของเมืองไทย ในการเป็นผู้นำด้านสร้างสรรค์ยานยนต์ดัดแปลง จนได้รับความนิยมทั่วไปในเวลาอันรวดเร็ว ส่งผลให้วันนี้กลุ่มบริษัทฯ สามารถขยับขยายธุรกิจจนครอบคลุมทุกระบบงานนับตั้งแต่ การวิจัยและออกแบบรถยนต์ การผลิตแม่พิมพ์โลหะ การผลิตชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์ การประกอบรถยนต์ การเป็นผู้แทนจำหน่าย/ศูนย์บริการรถยนต์หลายยี่ห้อ และธุรกิจการเช่าซื้อรถอย่างครบวงจร โดยมีพนักงานมากกว่า 1,300 คน อีกทั้งยังได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001, TS 16949, ISO 14001 จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่า บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) จะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย ที่มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยตลอดไปอย่างแน่นอน