กลุ่มผู้ค้าปลีกวอนกระทรวงสาธารณสุขล้มเลิกมาตรการควบคุมยาสูบแบบสุดโต่ง

พฤหัส ๒๒ พฤศจิกายน ๒๐๑๒ ๑๑:๐๑
ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกกว่าร้อยละ 78 เชื่อมาตรการควบคุมยาสูบฉบับล่าสุดจะส่งผลร้ายแก่ธุรกิจการค้า

สมาคมการค้ายาสูบไทยวอนกระทรวงสาธารณสุขพิจารณายุติแผนการควบคุมการบริโภคยาสูบชนิดสุดโต่งซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาร่างในขณะนี้ โดยร่างพระราชบัญญัติควบคุมการบริโภคยาสูบฉบับล่าสุดจะสร้างภาระอย่างมากให้แก่ภาคธุรกิจค้าปลีก ทำให้รายได้ร้านค้าลดลงและส่งผลกระทบต่ออาชีพของผู้ประกอบการร้านค้าปลีกขนาดย่อย

นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า “สมาคมการค้ายาสูบไทยและสมาชิกของเรากว่า 1,300 ราย ทั้งจากกลุ่มผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์ยาสูบ ผู้ค้าส่ง และผู้จัดจำหน่ายจากทั่วประเทศไทย มีความกังวลเป็นอย่างมากต่อร่างกฎหมายฉบับนี้เนื่องจากมีเนื้อหากว้างมากเกินไป คลุมเครือ และให้อำนาจกับกระทรวงสาธารณสุขในการออกกฎระเบียบในภายหลังโดยไม่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนหรือผ่านกระบวนการตรวจสอบกลั่นกรองของรัฐสภา”

“บทบัญญัติ อาทิ การบังคับให้ร้านค้าปลีกจัดส่งรายงานประจำปีให้แก่คณะกรรมการอำนวยการ การควบคุมอายุของผู้ขาย กำหนดให้ร้านค้าต้องแสดงสื่อรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ภายในร้าน หรือการจำกัดการแสดงราคาขายของผลิตภัณฑ์ยาสูบนั้น จะก่อให้เกิดภาระในการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายของร้านค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนั้น ร่างกฎหมายควบคุมการบริโภคยาสูบยังจะห้ามร้านค้าปลีกรายใหญ่เข้ามาเป็นพันธมิตรในการทำกิจกรรมการกุศลเพื่อสังคมกับหน่วยงานภาครัฐ เช่นการให้การสนับสนุนความช่วยเหลือเมื่อเกิดวิกฤตอุทกภัยอีกด้วย” นางวราภรณ์ กล่าวเสริม

ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบที่เป็นร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ซึ่งจัดทำขึ้นโดยบริษัทอิปซอสส์ (ไทยแลนด์) ในนามสมาคมการค้ายาสูบไทย ชี้ให้เห็นว่าร้านค้าปลีกกว่าร้อยละ 78 เชื่อว่ามาตรการควบคุมยาสูบแบบสุดโต่งนี้จะส่งผลเสียหายให้แก่ธุรกิจร้านค้า อีกทั้ง ร้อยละ 72 ของร้านค้าปลีก คิดว่ารัฐบาลควรเน้นเรื่องการศึกษาให้มากขึ้นให้ความรู้ มากกว่าจะนำเสนอร่างกฎหมายใหม่ นอกจากนี้ ร้อยละ 50 มีความเห็นว่าการปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายฉบับปัจจุบันที่มีอยู่แล้วน่าจะเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการลดอัตราการสูบบุหรี่

นางวราภรณ์ยังได้ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “ในช่วงเวลาที่ร้านค้าปลีกคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะถดถอยในปีหน้า ดังนั้นจึงเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการผ่านร่างกฎหมายควบคุมการบริโภคยาสูบอันมีค่าใช้จ่ายสูงที่จะส่งผลร้ายต่อธุรกิจค้าปลีก ในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถช่วยลดอัตราการบริโภคยาสูบได้เลย หรือได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น รัฐบาลควรมุ่งเน้นพัฒนามาตรการที่มีข้อพิสูจน์อย่างแท้จริงว่าสามารถช่วยลดอัตราการบริโภคยาสูบได้ อย่างเช่นการให้ความรู้หรือการบังคับใช้กฎหมายเดิมที่มีอยู่อย่างเคร่งครัดมากขึ้น”

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายที่รัฐบาลนำเสนอจะเป็นการนำไปสู่การบังคับใช้ซองบุหรี่แบบเรียบ ซึ่งหมายถึงการห้ามแสดงเครื่องหมายที่สื่อถึงแบรนด์ใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายการค้า โลโก้ สี และกราฟิกต่างๆ โดยบนซองผลิตภัณฑ์ยาสูบจะมีเพียงแค่ชื่อยี่ห้อซึ่งใช้ตัวอักษรแบบมาตรฐานเหมือนกันหมดทุกซอง

โดยกลุ่มผู้ค้าปลีกเชื่อว่ามาตรการซองบุหรี่แบบเรียบนี้จะส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อธุรกิจของพวกเขา รวมทั้งเป็นการกระตุ้นการค้าของเถื่อนในอุตสาหกรรมยาสูบ ผลเสียต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการซองบุหรี่ยังรวมถึง

ผู้ค้าปลีกร้อยละ 82 เชื่อว่าการดำเนินงานในร้านค้าในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งสินค้า การจัดเก็บสินค้า และการให้บริการลูกค้าจะมีความซับซ้อนและยุ่งยากมากขึ้นผู้ค้าปลีกร้อยละ 84 เชื่อว่าซองบุหรี่แบบเรียบที่มีลักษณะเหมือนกันหมดจะทำให้ง่ายต่อการปลอมแปลง ส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ปลอมแปลงและสินค้าเลียนแบบเพิ่มมากขึ้นผู้ค้าปลีกร้อยละ 82 เชื่อว่าซองบุหรี่แบบเรียบจะทำให้มีการลักลอบนำบุหรี่ที่มียี่ห้อเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมากขึ้น“ณ ขณะนี้ รัฐบาลได้ใช้กฎหมาย ข้อกำหนด และกฎระเบียบกว่า 47 ประการซึ่งมุ่งเป้าไปที่การควบคุมยาสูบ จึงเห็นได้ชัดว่าไม่มีความจำเป็นใดๆ ในการออกกฎหมายเพิ่มเติม ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาการให้ความรู้และการบังคับใช้กฎหมายเดิมที่มีอยู่จะเป็นการดีกว่า” นางวราภรณ์ กล่าวสรุป

ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบ จัดทำขึ้นโดยบริษัทอิปซอสส์ (ไทยแลนด์) บริษัทวิจัยชั้นนำของโลกและเป็นสมบัติของสมาคมการค้ายาสูบไทย ผลสำรวจนี้จัดทำผ่านกระบวนการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในกลุ่มเจ้าของกิจการร้านค้าปลีก และผู้จัดการประจำร้านจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,000 รายทั่วประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 24 กันยายน 2555 ถึง 14 ตุลาคม 2555

สมาคมการค้ายาสูบไทยเป็นสมาคมที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 โดยมีวัตถุประสงค์ในการสะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้จัดจำหน่าย ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ และผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบ ในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยาสูบ ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ทางเว็บไซต์ http://www.ttta.or.th

สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ 124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง โทร 0 2 718 1886

กฤติยา นนทะนาคร [email protected] ต่อ 226

นิรชา รื่นเริง [email protected] ต่อ 150

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version