“บุญทรง”เข้าประชุมสภาธุรกิจอาเซียน-อียู รมต.ข้าวกับCLMVพร้อมเจาะตลาดผู้บริโภคไฮโซเขมร ขยายตลาดสินค้าแฟชั่น เครื่องหนังเข้าพารากอนกัมพูชา

พฤหัส ๒๒ พฤศจิกายน ๒๐๑๒ ๑๕:๐๔
“บุญทรง”เข้าประชุมสภาธุรกิจอาเซียน-อียู รมต.ข้าวกับCLMVพร้อมเจาะตลาดผู้บริโภคไฮโซเขมร ขยายตลาดสินค้าแฟชั่น เครื่องหนังเข้าพารากอนกัมพูชา จัดบิสซิเนสแมทชิ่ง หลังพบ 9 เดือนพุ่ง87%

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการเดินทางประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 16-20 พ.ย.นี้ ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะมีการประชุมกลุ่มและทวีภาคีในหลายระดับ โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีประชุมสภาธุรกิจอาเซียน-อียู(EABC)และการประชุมรัฐมนตรีข้าว 5 ประเทศ(ไทย+CLMV ประกอบด้วยกัมพูชา-ลาว-เมียนมาร์เวียดนาม) การประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

ทั้งนี้การเดินทางกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้แสวงหาลู่ทางขยายการค้าการลงทุน ซึ่งการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาการส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ย.)ขยายตัวสูงถึง41% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ มีมูลค่ากว่า2,834 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้าขยายตัวกว่า 33% หรือ มีมูลค่า 184 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งกัมพูชาเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูง มีอำนาจการซื้อและนิยมสินค้าไทย ประกอบกับมีการขนส่งสะดวก มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์สามารถเป็นฐานการผลิตด้านการเกษตรได้ รวมถึงไม่จำกัดธุรกิจที่จะทำการค้าหรือลงทุน และรัฐบาลส่งเสริมให้มีการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งสอดรับกับไทยที่มีนโยบายให้ผู้ประกอบการไปตั้งฐานการผลิตในประเทศที่เป็นแหล่งวัตถุดิบ เช่น เสื้อผ้า สิ่งทอ เป็นต้น

“กรมฯได้จัดกิจกรรมนัดหมายเจรจาการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย 20 ราย เพื่อขยายตลาดการส่งออกและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าไทยในกัมพูชา รวมทั้ง วางตำแหน่งสินค้าแฟชั่นของไทยที่มีแบรนด์เนมในตลาดระดับบน-กลางของกัมพูชา ณ ห้างพารากอน กรุงพนมเปญ”นายบุญทรง กล่าว

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้ เชิญสมาคมและผู้นำเข้า/ตัวแทนจำหน่ายสินค้าแฟชั่นหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องในกรุงพนมเปญเข้าร่วม มีการลงนามเอ็มโอยูระหว่างห้างพารากอนกับสมาคมฯ เพื่อหาโอกาสในการขยายช่องทางการค้าปลีกของผู้ส่งออกแฟชั่นไทยในห้างฯ การจัดมินิเอ็กซิบิชั่น เพื่อสร้างภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมของไทยในการขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าระดับบน-กลาง การจัดแสดงแฟชั่นโชว์ และนำคณะสำรวจ/ศึกษาตลาด ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ตลอดจนศูนย์กระจายสินค้าของประเทศกัมพูชา เพื่อให้ผู้ส่งออกได้ทราบข้อมูลตลาด รสนิยมการบริโภคและแนวโน้ม ในอนาคตรวมถึงกฎระเบียบทางการค้าที่สำคัญ และการหาโอกาสในการใช้ประโยชน์จากการร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มอาเซียน เช่น การสรรหาวัตถุดิบและแหล่งผลิตเป็นต้น

ทั้งนี้โอกาสของสินค้าแฟชั่นไทยในกัมพูชาเป็นสมาชิกของอาเซียน และสมาชิกขององค์การการค้าโลก(WTO)ส่งผลให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สินค้าส่งออกที่สำคัญของกัมพูชา ได้แก่ สินค้าสิ่งทอ ซึ่งกัมพูชามีความได้เปรียบในการผลิตเพื่อการส่งออก โดยมีโรงงานผลิตสินค้าสิ่งทอกว่า 200 โรงงาน มีการจ้างงานกว่า 200,000 คน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการยกเลิกโควตาส่งออกสินค้าสิ่งทอ รัฐบาลกัมพูชาได้เริ่มกระบวนการ อำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุน เพื่อลดต้นทุนการประกอบการให้สามารถแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุง มาตรฐานการจ้างงาน ให้เป็นสากลมากขึ้น โดยอนุญาตให้องค์กรด้านแรงงานนานาชาติ เข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบกระบวนการจ้างงาน และการใช้แรงงาน

สำหรับสินค้าแฟชั่นไทยส่งออกมากัมพูชาในช่วง 9 เดือนแรก มีมูลค่ารวม 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 87% กลุ่มสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปกัมพูชามีมูลค่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ลดลง5 กลุ่มสินค้าเครื่องหนังและรองเท้าไปกัมพูชามีมูลค่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 10% สินค้าแฟชั่นนับเป็นอีกสินค้าหนึ่งที่จะมีศักยภาพในตลาดกัมพูชา เนื่องจากปัจจุบันชาวกัมพูชาที่มีฐานะดีขึ้น และเข้ามาช้อปปิ้งในเมืองไทย ทำให้แบรนด์ดังในไทย มักเป็นที่รู้จักของคนกัมพูชาส่วนใหญ่ นอกจากนี้ชาวกัมพูชายังมีการรับสื่อและข่าวสารไทย เช่น รายการโทรทัศน์และละครส่งผลให้ชาวกัมพูชาสมัยใหม่ ชื่นชอบและเอาอย่างการบริโภคจากประเทศไทย จึงมีแนวโน้มที่ดีในการขยายตลาดสินค้าแฟชั่นไทย

“การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในตลาดกัมพูชาขณะนี้มีปัจจัยสนับสนุนที่ดีหลายประการ เนื่องจากการขยายตัวของทางเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของพื้นที่เชิงพาณิชย์ ประกอบกับตัวเลขการขยายตัวของธุรกิจการค้าที่คาดว่าจะขยายตัว 7.1% และธุรกิจการโรงแรมและร้านอาหาร ที่คาดว่าจะขยายตัวถึง 11.2%รวมทั้ง ชาวกัมพูชามีความคุ้นเคยและให้การยอมรับสินค้าไทยมากทำให้โอกาสในการขยายตลาดการค้าและการลงทุนของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยยังมีอีกมาก โดยเฉพาะการแข่งขันในประเทศไทยที่ทวีความรุนแรงขึ้นมากจากการที่กลุ่มเสื้อผ้าเครื่องหนังแบรนด์อินเตอร์จะมุ่งขยายแบรนด์สินค้ามายังไทยมากขึ้นเนื่องจากประเทศแถบยุโรปได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ตลาดกัมพูชาจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังได้รับความสนใจจากนักธุรกิจแฟชั่นชาวไทยมากขึ้นทุกวัน โดยมีการแผนที่จะขยายตลาดไปด้วยการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย และขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะเข้าไปตั้งโรงงานผลิตสินค้าอีกด้วย”นางศรีรัตน์ กล่าว

สำนักประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

โทร.(02) 507-7932-34

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO