ปัจจุบัน ย่างกุ้งมีห้องพักโรงแรมรวมทั้งสิ้นประมาณ 8,000 ห้อง ในจำนวนนี้ ราว 1,500 — 2,500 ห้องที่อยู่ในโรงแรมที่มีคุณภาพในระดับสากล และโรงแรมที่บริหารโดยเชนโรงแรมระหว่างประเทศมีสัดส่วนไม่ถึง 20%
จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าย่างกุ้งขยายตัวเพิ่มขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมาหลังรัฐบาลพม่าเริ่มนโยบายการปฏิรูปทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งส่งผลให้ดีมานด์หรือความต้องการใช้ห้องพักโรงแรมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจากชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและติดต่อธุรกิจ อย่างไรก็ดี แบรนด์โรงแรมอินเตอร์ที่มีชื่อเสียงที่เข้ามารับบริหารโรงแรมในพม่ามีค่อนข้างน้อย อันเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของอเมริกาและยุโรป
นายแอนดรูว์ แลงดอน รองประธานบริหารอาวุโส จากโจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์ กล่าวว่า “คาดว่า ในช่วงหลายปีข้างหน้า อุปทานโรงแรมในย่างกุ้งจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากขณะนี้มีจำนวนห้องพักไม่เพียงพอรองรับนักท่องเที่ยว และรัฐบาลผลักดันให้มีการขยายขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เราประมาณการณ์ว่า ห้องพักโรงแรมที่ได้มาตรฐานสากลในย่างกุ้งจะเพิ่มจำนวนขึ้นราว 37% ต่อปีจากนี้ไปถึงปี 2559”
“จากการที่จำนวนนักท่องในพม่าขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับต้องอาศัยเวลาก่อนที่โรงแรมใหม่จะสร้างเสร็จเพิ่ม อีกทั้งยังมีปัจจัยความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ กฎหมายและการเมือง ซึ่งอาจกระทบการก่อสร้างโรงแรมดังนั้น จึงมีแนวโน้มว่า ตลาดโรงแรมของย่างกุ้งจะอยู่ในภาวะขาดแคลนห้องพักในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า จนกว่าโรงแรมใหม่ๆ จะสร้างเสร็จเพิ่มขึ้นมากพอ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า มีโอกาสสูงที่ผู้บริหารโรงแรมจะสามารถปรับขึ้นค่าบริการห้องพักได้อีกมาก” นายแลงดอนกล่าว
ค่าบริการห้องพักเฉลี่ยรายวันในปัจจุบัน ถีบตัวสูงขึ้น 350% จากปี 2550 โรงแรมส่วนใหญ่ในย่างกุ้งมีแขกเข้าพักเต็มทุกวันตลอดทั้งปี ทั้งนี้ จากการที่นักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนขึ้นต่อเนื่องและห้องพักโรงแรมที่มีคุณภาพในระดับสากลมีจำกัด ผู้ประกอบการโรงแรมจึงมีความแข็งกร้าวในการเจรจาเงื่อนไขสัญญาค่าบริการห้องพักกับบริษัททัวร์เพื่อปรับเพิ่มราคาค่าห้องพักขึ้น รัฐบาลพม่าได้เข้าแทรกแซงด้วยการกำหนดเพดานค่าห้องพักไว้ที่ไม่เกิน 150 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับห้องพักที่ขายให้กับบริษัททัวร์ แต่มาตรการแทรกแซงดังกล่าวจะหมดอายุในสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้า
การประกอบธุรกิจโรงแรมในพม่ายังมีความท้าทายในหลายประเด็น อาทิ การจะได้มาซึ่งแปลงที่ดินสำหรับพัฒนาโรงแรมไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่มีความชัดเจนในเรื่องของแหล่งเงินทุน โครงการบางโครงการในย่างกุ้งมีวัตถุประสงค์ที่ค่อนข้างส่อไปในทางที่เป็นการเก็งกำไรและมีความเป็นไปได้ที่จะไม่คืบหน้าต่อไปได้จริง
อย่างไรก็ดี กฎหมายว่าด้วยการลงทุนจากต่างชาติที่รัฐบาลพม่าเพิ่งประกาศใช้ในเดือนนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในส่วนต่างๆ ที่พม่ายังคงขาดแคลนและช่วยสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจของประเทศ กฎหมายใหม่ดังกล่าวระบุว่า นักลงทุนจากต่างชาติที่จะเข้ามาตั้งกิจการไม่จำเป็นต้องมีหุ้นส่วนที่เป็นชาวพม่า โดยอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของกิจการได้เต็ม 100% หรือสามารถร่วมทุนกับชาวพม่าได้ในสัดส่วนที่ตามแต่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกัน นอกจากนี้ นักลงทุนจะได้รับการผ่อนปรนด้านภาษี อาทิ การงดเว้นการจัดเก็บภาษีเงินได้ติดต่อกัน 5 ปี กฎหมายดังกล่าวยังได้ขยายระยะเวลาการเช่าที่ดินเป็น 50 ปี และเปิดช่องให้ผู้เช่าสามารถต่ออายุสัญญาเช่าได้อีกสองครั้งๆ ละ 10 ปี
“แม้จะมีประเด็นท้าทายต่างๆ ตลาดย่างกุ้งมีศักยภาพสูงที่จะเติบโตได้เร็วกว่ามากเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่ของหลายๆ ประเทศในเอเชีย และมีแนวโน้มที่จะสร้างการเติบโตสูงให้กับทุกภาคธุรกิจ แม้จะเป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำ นอกจากนี้ โอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทมีความน่าสนใจมาก เนื่องจากมีภาวะขาดแคลนทั้งในตลาดอาคารสำนักงาน โรงแรม ที่พักอาศัย และศูนย์การค้า แม้หากจะมีการก่อสร้างโรงแรมคุณภาพสากลเพิ่มขึ้นอีกสามเท่าในช่วงหลายปีข้างหน้า โอกาสยังคงมีอยู่มากสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าไปลงทุนแต่เนิ่นๆ ในช่วงนี้ เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนห้องพักโรงแรมอย่างรุนแรงในขณะนี้” นายแลงดอนกล่าวสรุป
เกี่ยวกับโจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์
โจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์ เป็นบริษัทระหว่างประเทศผู้ให้บริการต่างๆ ด้านการลงทุนในธุรกิจโรงแรม ได้แก่ บริการเป็นตัวแทนซื้อและที่ปรึกษาด้านการจัดหาแหล่งเงินทุน บริการประเมินราคา การเป็นตัวแทนขาย และตัวแทนบริหารทรัพย์สิน
โจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์ มีสำนักงาน 44 สาขาใน 20 ประเทศ โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีงานที่ปรึกษาและประเมินราคาโรงแรมทั่วโลกรวมทั้งสิ้นเกือบ 4,000 รายการ และเป็นตัวแทนซื้อขายโรงแรมคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
วินัย ใจทน 02 624 6540