ยศยาคลินิก คลินิกศัลยกรรมความงามและดูแลผิวพรรณ เตรียมลุยตลาดในช่วงส่งท้ายปี ชูจุดขายการปรับรูปหน้าให้ดูดีแบบองค์รวม เจาะกลุ่มนักศึกษา-สาวทำงาน ในแคมเปญ “ถ่ายรูปไม่ง้อ Photoshop ใบหน้าดูดีทุกมุมองกับยศยาคลินิก” หวังดันยอดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 20 %
นางสาวกานต์ณพิชญ์ กุณามา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด “ยศยาคลินิก” ผู้ดำเนินธุรกิจคลินิกศัลยกรรมตกแต่งและความงาม เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ เทรนด์เรื่องหน้าเรียวเล็กรูปตัววีหรือ V-shapeมาแรง เพราะเชื่อว่าจะทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย และถ่ายรูปสวยเหมือนดารา ประกอบกับในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม กลุ่มเป้าหมายทั้งที่เป็นกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานมักมีกิจกรรมสังสรรค์ และออกไปพบปะผู้คน มีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก จึงปรารถนาที่จะมีใบหน้าที่ดูดีในทุกมุม ไม่ต้องคอยเอียงหรือหันข้างในการถ่ายรูป ทางคลินิกจึงเห็นโอกาสทางการตลาดที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้ จึงจัดแคมเปญส่งท้ายปลายปี “ถ่ายรูปไม่ง้อPhotoshop ใบหน้าดูดีทุกมุมองกับยศยาคลินิก” โดยจัดแพ็คเกจที่เกี่ยวกับการปรับรูปหน้าทั้งหมด เช่น การร้อยไหม โบท็อกซ์ เลเซอร์สลายไขมันที่ใบหน้า ไปจนถึงการทำศัลยกรรมใบหน้า ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกรับบริการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจัดเป็นแพ็คเกจรวม โดยใช้วิธีการหลายอย่างควบคู่กันไป ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคลเพื่อให้ได้ผลสูงสุด
นอกจากโฟกัสไปที่เรื่องรูปหน้าแล้ว ยศยาคลินิกยังได้จัดโปรโมชั่นส่วนลดในหลากหลายรายการครอบคลุมการให้บริการทั้งด้านศัลยกรรมและด้านดูแลผิวพรรณ โดยเฉพาะเรื่องของรูปร่างด้วย มีการจัดส่วนลดพิเศษ 15 — 50 % สำหรับโปรแกรมการระเบียบรูปร่าง (Body Contouring) เช่น เวเซอร์ คาร์บ็อกซี่ และการดูดไขมัน โดยคลินิกได้จัดสรรงบประมาณ 5 ล้านบาทในการทำตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ ผ่านทางการซื้อสื่อนิตยสารความงาม และสื่อวิทยุ คลินิกได้พยายามหาช่องทางใหม่ๆ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชอบสรรหาไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ๆในราคาเหมาะสม โดยใช้สื่ออินเตอร์เนต , เวปไซด์และโซเชียลเนตเวิร์ค โดยเฉพาะโปรโมชั่นของสินค้าบริการผ่านเครือข่ายอีคอมเมิร์ช ในรูปแบบของดีล เป็นต้น
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด “ยศยาคลินิก” ยังกล่าวเสริมถึงตลาดความงามในปัจจุบันว่า ยังคงไปได้สวยและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีการแข่งขันด้านราคากันอย่างดุเดือด แต่มองว่าจากเหตุการณ์และข่าวคราวเรื่องการทำศัลยกรรมและเสริมความงามที่ขาดความรู้ความชำนาญและไม่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยจนถึงขั้นเสียชีวิตนั้น จะทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวและฉลาดเลือกมากขึ้น ดังนั้นนับเป็นข้อดีที่จะทำให้ผู้เล่นในตลาดจะต้องคำนึกถึงด้านคุณภาพเป็นสำคัญ โดยเฉพาะจะทำให้พวกคลินิกเถื่อนและหมอกระเป๋าลดลงไปได้ อันจะช่วยยกระดับและสร้างมาตรฐานให้กับผู้ประกอบการและประกอบธุรกิจด้านนี้อย่างยั่งยืน สำหรับยศยาคลินิกตั้งเป้าหมายว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้จะสามารถทำยอดขายเติบโตได้อีก 20% ทำให้มียอดรวมของปีนี้อยู่ที่ 50 ล้านบาท