ทีมผู้บริหารและพนักงานธนาคารดอยช์แบงก์ ได้ตัดสินใจเปลี่ยนกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ภายในบริษัท ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมารวมตัวกันเพื่อประเมินผลการดำเนินงาน และวางแผนธุรกิจของปีถัดไปเหมือนอย่างที่เคยทำกันในทุกๆ ปี และปีนี้ได้เปลี่ยนเป็นการเชิญพนักงานกว่า 110 คนจากทั่วเอเชียมาร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมและเด็กไทย นำทีมโดยมร. มาซิโอ คีลลิ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสถาบันประจำภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก โดยผู้บริหารและพนักงานทั้งหมดได้ใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวเดินทางมาประเทศไทย เพื่อจัดกิจกรรมสร้างเสริมความสัมพันธ์ในองค์กร โดยให้พนักงานลงพื้นที่เป็นอาสาสมัครช่วยบูรณะโรงเรียนวัดมงคลพุการาม จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ประสบปัญหาด้านทุนทรัพย์ และยังไม่ได้รับการบูรณะอย่างสมบูรณ์แบบ และนอกจากนี้ยังได้บริจาคอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และเงินอีกจำนวนหนึ่งเพื่อใช้ในการพัฒนาโรงเรียนต่อไปอีกด้วย
โรงเรียนวัดมงคลพุการามมีนักเรียนชั้นประถมทั้งหมด 78 คน ซึ่งเป็นลูกหลานของชาวบ้านในระแวกใกล้เคียง ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมตั้งแต่ปีที่แล้ว โรงเรียนแห่งนี้ก็ไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอในการบูรณะอาคารและบริเวณโรงเรียนได้ด้วยตัวเอง ธนาคารดอยช์แบงก์ได้ทำกิจกรรมนี้ร่วมกับโครงการโรงเรียนของหนู ซึ่งเป็นโครงการที่ทำร่วมมือทั้งอาสาสมัครและองค์กรภาคเอกชน เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้นให้กับเด็กผู้ยากไร้ในโรงเรียนที่ห่างไกลความเจริญทั่วประเทศไทย
“ที่ธนาคารดอยช์แบงก์ เราเชื่อเป็นอย่างมากในการมอบสิ่งที่ดีให้กับสังคมที่เราอาศัยและทำงานอยู่ พนักงานของเราทุกคนไม่เพียงอยากประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการทำงานที่ทีมตั้งไว้ แต่เราอยากเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในภาพรวมของสังคมด้วย” มร. มาซิโอ คีลลิ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสถาบัน ประจำภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก กล่าว
และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา พนักงานธนาคารดอยช์แบงก์ สาขากรุงเทพฯ ได้ร่วมมือกันทาสีห้องสมุดและห้องคอมพิวเตอร์ใหม่ที่โรงเรียนบ้านบ่อน้ำ จ.ลพบุรี โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนี้เพื่อทำให้เด็กยากไร้และชาวบ้านได้มีห้องสมุดและห้องคอมพิวเตอร์ไว้ค้นคว้าหาความรู้ ซึ่งเป้าหมายของธนาคารดอยช์แบงก์ก็คือต้องการให้เด็กๆ ได้รับการพัฒนาศักยภาพและพรสวรรค์ รวมไปถึงโครงการมอบทุนการศึกษาระยะยาวให้กับเด็กผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ในภาคเหนืออีกด้วย โดยทางธนาคารดอยช์แบงก์ได้ร่วมกับมูลนิธิหมอเสม พริ้งพวงแก้ว ซึ่งปัจจุบันได้ดูแลเด็กกำพร้าและเด็กผู้ติดเชื้อเอดส์กว่า 300 คน
“นี่ถือเป็นอีกครั้ง ที่กิจกรรมนี้ได้เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำความดีเพื่อสังคม โดยให้พนักงานของเราร่วมมือกันใช้เวลาส่วนตัว มาช่วยทั้งกำลังกายและได้มอบทั้งเงิน และแรงงานเพื่อสร้างพลังบวกและสิ่งที่ดีๆแก่สังคม และเราก็อยากจะทำแบบนี้ต่อไปอีกในทุกๆ ปี” มร.คีลลิ่งกล่าวทิ้งท้าย