นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายเพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่อง จนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ให้แก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทั้งจากการส่งออก การจ้างงานและการพัฒนาเทคโนโลยี ตลอดจนดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในห่วงโซ่อุปทาน
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมและเอื้อต่อการลงทุน ผลักดันให้เกิดการสร้างฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนจากนักลงทุนทั่วโลก เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาใหม่ๆ ตามกระแสโลกาภิวัตน์ โดยมีเป้าหมายสูงสุดของการเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ให้มีความสมดุลอันเป็นฐานรากในการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน
“อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างรายได้และก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มมหาศาลให้กับประเทศ รวมทั้งมีบทบาทสำคัญต่อสังคม ด้วยการสร้างแรงงานมีฝีมือมากกว่า 8 แสนคน และก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตระดับสูง และเมื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ จะเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทย ทั้งนี้ ภาครัฐจะเป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการผลิตเกิน 3 ล้านคันในปี 2560”
ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยแรงสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนที่ร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั้งระบบ โดยภาครัฐเป็นผู้กำหนดนโยบาย และภาคเอกชนเป็นผู้ดำเนินการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล จนประสบความสำเร็จในการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ 1 ใน 10 ของโลก
“ปี 2555 นับว่าเป็นปีทองของอุตสาหกรรมยานยนต์ สามารถผลิตได้มากกว่า 2 ล้านคัน และมียอดการส่งออกยานยนต์ทั้งระบบรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท เป็นอันดับหนึ่งของการส่งออก โดยมีโปรดักส์แชมเปี้ยน คือ รถปิกอัพ และอีโคคาร์ รวมถึงการส่งออกชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ไปยังทั่วโลก จากแนวโน้มดังกล่าว อุตสาหกรรมยานยนต์มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าการผลิตมากกว่า 3 ล้านคันในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน”
อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ช่วยพัฒนาไทยให้เข้มแข็ง
อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยวางรากฐานในประเทศมาเป็นระยะเวลานานกว่า 50 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เอื้อประโยชน์ให้กับประเทศไทยทั้งทางด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี ตลอดจนสังคมและสิ่งแวดล้อม
ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีมูลค่าคิดเป็น 10% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) คาดว่า
ในปีนี้จะเป็นฐานการผลิตที่มีกำลังการผลิตสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก มียอดการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนเป็นอันดับที่ 6 ของโลก โดยคาดว่าในปี 2555 จะมียอดการส่งออกสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นยอดการส่งออกรถยนต์กว่า 1 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท และยอดส่งออกชิ้นส่วนอีกกว่า 4 แสนล้านบาท นับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่นำเงินตราเข้าประเทศเป็นอันดับหนึ่ง ตลอดจนสร้างอุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศ ปัจจุบัน ประเทศไทยมีโรงงานผลิตยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องรวมกว่า 2,500 แห่ง และในปี 2555 นี้ เฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มียอดขอส่งเสริมการลงทุนสูงถึง 202,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95% จากปีก่อน
ด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ประกอบการยานยนต์และชิ้นส่วนต่างลงทุนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้นในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีจำนวนไม่น้อยกว่า 9 แห่ง ก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการอุตสาหกรรม ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถพัฒนามาตรฐานการผลิตและคุณภาพทัดเทียมประเทศผู้ผลิตชั้นนำของโลกภายใต้แบรนด์ Made in Thailand
ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมยานยนต์มีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม สร้างงานสร้างอาชีพ มุ่งมั่นพัฒนาฝีมือแรงงานซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกำลังการผลิต นอกจากนี้ ยังมีส่วนในการพัฒนาคมนาคมขนส่ง ช่วยกระจายความเจริญไปสู่ชุมชนต่างๆ สำหรับบทบาททางด้านสิ่งแวดล้อมนั้น อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นธุรกิจแถวหน้าที่มีความตื่นตัวด้านการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม เริ่มจากการผลิตผลิตภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วนได้มาตรฐาน Euro และ Emissions ระดับสากล ทั้งยังพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จะมีการจัดงานฉลองความสำเร็จ “2 ล้านคันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย มิติใหม่สู่ความสำเร็จระดับโลก”ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เกียรติเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการถ่ายทอดความเป็นมา 50 ปีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และก้าวต่อไปของยานยนต์ไทยสู่เวทีโลก เพื่อให้คนไทยได้รับรู้ถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ณ บริเวณหน้าห้อง Challenger Hall เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2555
จากซ้ายไปขวา
1. นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
2. นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
จากซ้ายไปขวา 1. นายยงเกียรติ์ กิตะพาณิชย์ ประธานกลุ่มชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์
2. ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์
3. นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
4. นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
5. นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์
6. นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
7. นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย