นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ เปิดเผยถึงการดำเนินงานของกรมสรรพสามิตว่าเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพด้านการจัดเก็บภาษีและมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกัน และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังจะเห็นได้จากแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ที่ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพเรือ เพื่อตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่ที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เช่น บริเวณตะเข็บชายแดน แหล่งชุมชน และสถานบริการ
สำหรับในวันนี้นอกจากจะมาตรวจเยี่ยมกรมสรรพสามิตแล้วยังได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานและการจัดเก็บภาษีของกระทรวงการคลังให้แก่คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิต ดังนี้
1. มุ่งเน้นการบริหารการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตให้เป็นไปตามเป้าหมาย ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ ผู้ที่เสียภาษีโดยสุจริต โดยในปีงบประมาณ 2556 กระทรวงการคลังมอบหมายให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีจำนวน 412,000 ล้านบาท
2. ให้บริการประชาชนและผู้ขอใช้สิทธิ์ตามโครงการรถคันแรก ซึ่งตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 จนถึงขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนยื่นขอใช้สิทธิ์รถคันแรก จำนวน 579,987 ราย คิดเป็นเงินจำนวน 42,847 ล้านบาท
3. ปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษี ระบบการตรวจสอบ และระบบการควบคุมสินค้าที่อยู่ในความรับผิดชอบให้รัดกุมและมีมาตรฐาน โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ เปิดเผยว่าในปีงบประมาณ ๒๕๕5 (ตุลาคม ๒๕๕4 — กันยายน ๒๕๕5) กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้รวม 379,653.06 ล้านบาท โดยสินค้าที่จัดเก็บได้สูงสุด ๕ อันดับแรก ได้แก่ (๑) ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้สูงสุด จำนวน 117,144.65 ล้านบาท (๒) ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้จำนวน 64,892.84 ล้านบาท (๓) ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 61,061.24 ล้านบาท (๔) ภาษียาสูบ จัดเก็บได้จำนวน 59,915.38 ล้านบาท และ (๕) ภาษีสุรา จัดเก็บได้จำนวน 53,499.71 ล้านบาท
กรมสรรพสามิต สำนักงานเลขานุการกรม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร./ โทรสาร 02 241 4778