นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ด้วยประสบการณ์และความเชื่อถือของลูกค้าในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพสูงในทำเลใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยใช้ปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชิวิต โนเบิลจะยังคงจุดแข็งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 เราจะให้ความสำคัญงานหลัก 2 เรื่อง คือ 1. การเร่งงานก่อสร้างและการขายสำหรับโครงการ “โนเบิล เพลินจิต” และ 2. การเปิด 3 โครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพระดับสูง ในทำเลชั้นเยี่ยมติดรถไฟฟ้าซึ่งเรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี”
ความคืบหน้าโครงการ “โนเบิล เพลินจิต”
โครงการ “โนเบิล เพลินจิต” ที่มีมูลค่า 15,000 ล้านบาท ถือเป็นสุดยอดโครงการคอนมิเนียมที่มีความ โดดเด่นหลายประการ ได้แก่ ทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุดในใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต ขนาดของที่ดินที่กว้างกว่า 9 ไร่ การออกแบบที่มีเอกลักษณ์ในสไตล์โนเบิล พื้นที่สีเขียวที่มีขนาดใหญ่ถึง 4 ไร่ จึงเป็นโครงการที่โดดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน และหาได้ยากในโครงการเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน โครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในอีก 4 ปี
ในแง่ของผลการดำเนินงานของปี 2555 บริษัทฯ มียอดขายประมาณ 3,000 ล้านบาท และยังมีรายได้ที่รอการรับรู้อีก 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะทะยอยรับรู้รายได้ในช่วง 1-4 ปีข้างหน้านี้ ทำให้โนเบิลมีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็งของบริษัทฯ เป็นอย่างดี
“เราจะยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงด้วยกลยุทธ์การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง (Hi-end) ที่มีทั้งความหรูหรา (Luxury High End) และสามารถเข้าถึงได้ (Affordable High End) และแม้ว่าทำเลเด่นๆ ในกรุงเทพฯ จะหายากขึ้นทุกที แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อโนเบิลเลย เราจะยังคงให้ความสำคัญต่อการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเราต่อไป” นายกิตติกล่าว
ลุยเปิดอย่างน้อย 3 โครงการคุณภาพ
ในปี 2555 ที่ผ่านมา โนเบิลมีการเปิดโครงการใหม่มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท นายกิตติกล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 โนเบิลมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่อีกอย่างน้อย 3 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตในด้านมูลค่าโครงการใหม่ถึง 200% โดยทั้ง 3 โครงการจะอยู่ใน 3 ทำเลที่สุดยอดของกรุงเทพฯ ได้แก่ รัชดาภิเษก ทองหล่อ และสุขุมวิท ทุกโครงการของโนเบิลจะเน้นที่คุณภาพทุกด้าน เริ่มตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง ศิลปะออกแบบ วัสดุที่เลือกใช้ สิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่าในการลงทุน ในขณะที่แต่ละโครงการอาจจะมีความแตกต่างกันในเรื่องขนาดของห้องชุด เพื่อให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้าแต่ละกลุ่ม สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ อาจจะซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อเปิดตัวอีก 1-2 โครงการ
“นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการใหม่ๆ แล้ว สิ่งที่โนเบิลยึดมั่นมาตลอดก็คือ การให้ความสำคัญกับความสุขของลูกค้า และการพัฒนาทัศนียภาพและคุณภาพของสังคมเมือง ทุกโครงการที่ผ่านมาของเรา นอกจากจะเป็นความภาคภูมิใจของโนเบิลแล้ว ยังเป็นความภาคภูมิใจของคนกรุงเทพฯ อีกด้วย
มั่นใจศักยภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์
นายกิตติเปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังคงมีศักยภาพสูงในแง่ของการลงทุน โดยเฉพาะการที่เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำและอัตราเงินเฟ้อสูง หรือที่เรียกว่า Negative Interest ทำให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนระยะยาว เป็นการออมเงินที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด
“การรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเริ่มในช่วงปลายปี 2558 จะทำให้มีเงินลงทุนไหลเข้าออกได้อย่างเสรีกว่าเดิม ผู้ประกอบการมีโอกาสมากขึ้นที่จะไปลงทุนในเมืองที่มีศักยภาพโดยเฉพาะเมืองที่เป็นประตู่สู่ประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งในประเทศเพื่อนบ้านเองก็ตาม ซึ่งโนเบิลเองก็ไม่ได้ทิ้งโอกาส และกำลังศึกษาตลาดอยู่” นายกิตติกล่าว