ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นวงเงิน 660 ล้านบาท “บ. นิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. (5)” ที่ระดับ “A+”

ศุกร์ ๐๗ ธันวาคม ๒๐๑๒ ๐๙:๒๓
ทริสเรทติ้งประกาศจัดอันดับเครดิตเบื้องต้นที่ระดับ “A+(sf)” ให้แก่หุ้นกู้มีประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นอายุ 3 ปีมูลค่า 660 ล้านบาท (หุ้นกู้มีประกัน) ของ บริษัท นิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. (5) จำกัด (ผู้ออกตราสาร หรือเอสพีวี) โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้มีประกันจำนวน 660 ล้านบาทรวมกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิมูลค่า 268.97 ล้านบาท ที่เอสพีวีออกให้แก่ผู้เสนอโครงการคือ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) จะนำไปใช้ซื้อสิทธิเรียกร้องในค่างวดของกองลูกหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (กองสินทรัพย์) จากผู้เสนอโครงการ โดยตราสารดังกล่าวเป็นตราสารทางการเงินที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยหนุนหลังชุดแรกของ บตท. ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต หุ้นกู้มีประกันดังกล่าวได้รับการค้ำประกันอย่างไม่มีเงื่อนไขและเพิกถอนไม่ได้โดย บตท. ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จาก ทริสเรทติ้ง บตท. มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจประเภทสถาบันการเงินเฉพาะกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ อันดับเครดิตเบื้องต้นของหุ้นกู้มีประกันดังกล่าวสะท้อนความน่าเชื่อถือของผู้ค้ำประกัน ตลอดจนการมีหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ถือโดย บตท. คิดเป็น 28.95% ของหุ้นกู้ทั้งหมด รวมถึงเงินกู้ยืมที่ บตท. ตกลงจะให้แก่เอสพีวีเพื่อเสริมสภาพคล่องของเอสพีวี และภาระของ บตท. ที่จะต้องซื้อคืนกองสินทรัพย์ที่ยังคงเหลืออยู่จากเอสพีวี ณ วันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ โดยอันดับเครดิตเบื้องต้นแสดงถึงการที่ผู้ถือหุ้นกู้มีประกันจะได้รับชำระคืนหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่ครบถ้วนตามกำหนด

ทริสเรทติ้งรายงานว่า เอสพีวีเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไทยและคาดว่าจะมีการกำหนดคุณสมบัติให้เป็นไปตามพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 ต่อไป ผู้ถือหุ้นของเอสพีวีประกอบด้วย บตท. ซึ่งถือหุ้น 49.5% บริษัท บริการดี จำกัด ซึ่งถือหุ้น 48.99% และบุคคลธรรมดาซึ่งถือหุ้น 1.6% ในช่วงแรกของโครงการ เอสพีวีจะออกตราสารหนี้มูลค่า 928.97 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้มีประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นจำนวน 660 ล้านบาท และหุ้นกู้ด้อยสิทธิจำนวน 268.97 ล้านบาท โดยหุ้นกู้มีประกันจะเสนอขายให้แก่นักลงทุน ในขณะที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิจะถือโดย บตท. หุ้นกู้ด้อยสิทธิมีสถานะด้อยกว่าหุ้นกู้ที่ไดัรับการจัดอันดับเครดิตและเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้มีประกัน ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้จะนำไปใช้ซื้อสิทธิเรียกร้องในค่างวดของกองลูกหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (สินทรัพย์) จากผู้เสนอโครงการภายใต้สัญญาโอนสิทธิเรียกร้องระหว่าง บตท. และเอสพีวี

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ตามข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2555 กองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยซึ่ง บตท. ซื้อมาจากสถาบันการเงิน 6 แห่ง (ผู้ขาย) ประกอบด้วยลูกหนี้สัญญาเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยจำนวน 777 สัญญา ซึ่งมีมูลค่าเงินต้นคงเหลือจำนวน 914.28 ล้านบาท และมีมูลค่าทางบัญชี 928.97 ล้านบาท โดยมูลค่าทางบัญชีสูงกว่ามูลค่าเงินต้นคงเหลือประมาณร้อยละ 1.6 โดยหนี้ส่วนใหญ่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำของสถาบันการเงินนั้น ๆ ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่มีการจ่ายชำระคืนหนี้ก่อนกำหนดและไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ เงินค่างวดที่จะได้รับจากกองสินทรัพย์จะอยู่ที่ประมาณ 8.94 ล้านบาท ซึ่งเอสพีวีจะต้องจัดสรรเงินค่างวดดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้มีประกันจำนวน 5.742 ล้านบาทต่อเดือน โดยเงินที่จัดสรรให้ดังกล่าวจะประกอบด้วยส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ยของหุ้นกู้ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของกองสินทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 6.81% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ [4.06%] และอายุเฉลี่ยของลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยคงเหลืออยู่ที่ 240 เดือน นอกจากนี้ สิทธิในหลักประกัน สัญญาจำนอง และกรมธรรม์ที่มาพร้อมกับสินเชื่อก็จะโอนให้แก่เอสพีวี ณ เวลาเริ่มต้นโครงการ

บตท. จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนเรียกเก็บหนี้ของโครงการนี้ด้วย โดย บตท. เคยเป็นตัวแทนเรียกเก็บหนี้ให้แก่โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ของ บตท. ที่ผ่านมาทั้ง 4 โครงการ ดังนั้น ทริสเรทติ้งจึงเชื่อว่า บตท. จะสามารถทำหน้าที่ให้บริการเป็นตัวแทนเรียกเก็บหนี้ของโครงการนี้ได้ โดยเงินค่างวดที่ได้รับในแต่ละเดือนจะนำเข้าบัญชีของ บตท.ก่อน และจะโอนเข้าบัญชีเอสพีวี ณ ทุกสิ้นเดือน ทั้งนี้ ความเสี่ยงที่เงินรายได้ของเอสพีวีจะปะปนกับเงินของ บตท. นั้น ไม่น่าเป็นประเด็นที่ต้องกังวล เนื่องจากสำหรับโครงการนี้ บตท. จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการด้วย โดยตามสัญญาให้ความสนับสนุนทางการเงินระหว่าง บตท. และ เอสพีวีนั้น บตท. ตกลงจะให้เงินกู้ยืมแก่เอสพีวีในกรณีที่เอสพีวีไม่มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะชำระหนี้ในแต่ละงวดตลอดอายุของหุ้นกู้ได้ นอกจากนี้ภายใต้สัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง บตท. ตกลงจะซื้อคืนสิทธิเรียกร้องดังกล่าว โดยราคาซื้อคืนสิทธิเรียกร้องจะเป็นราคาระหว่าง 1) มูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์รวมดอกเบี้ยค้างชำระ หรือ 2) มูลค่าเงินต้นและดอกเบี้ยค้างชำระของหุ้นกู้มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิซึ่งรวมภาระผูกพันต่าง ๆ ของเอสพีวี หลังจากที่หักด้วยเงินสดคงเหลือในบัญชีสำรองของเอสพีวี แล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า เอสพีวีจะนำเงินที่ได้รับจากการขายคืนสิทธิเรียกร้องไปใช้ไถ่ถอนหุ้นกู้มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ซึ่งหากยังมีส่วนที่ขาดอยู่ บตท. ก็จะรับชำระให้ตามสัญญาค้ำประกัน ทริสเรทติ้งกล่าว

บริษัท นิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. (5) จำกัด (SPV-SMC (5))

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

หุ้นกู้มีประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้น 660 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+(sf)

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ 268.97 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 ไม่มีอันดับเครดิต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO