แสนสิริ เดินหน้ารุกตลาดหัวหิน-ชะอำ เปิดโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศ เอาใจคนรุ่นใหม่ในราคาที่ใครๆก็เอื้อมถึง ชูจุดขายความคุ้มค่า ครบครัน เชื่อดัวยชื่อของแสนสิริจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จัดการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศที่ หัวหินและชะอำ โดยนายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวคิดโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศว่า เป็นการมุ่งเปิดโอกาสและตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ ของคนรุ่นใหม่ หรือครอบครัวยุคใหม่ ที่รักการท่องเที่ยว พักผ่อนในวันหยุด แต่ต้องการความคุ้มค่า ครบครัน พร้อมความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิตในสังคมที่ดี โดยโครงการที่หัวหิน-ชะอำ จะเป็นคอนโดมิเนียมระดับกลางราคา 1 ล้านต้นๆ
หนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศหัวหิน ที่แสนสิริได้ดำเนินการแล้ว คือ โครงการคอนโดมิเนียม “บ้านเพียงเพลิน หัวหิน” ซึ่งเน้นทำตลาดไปที่กลุ่มคนที่รักในมนต์เสน่ห์เมืองหัวหิน โดยอิงแนวความคิดด้านการออกแบบ จากความงามของสถาปัตยกรรมบ้านตากอากาศของหัวหินในยุค 1970 โดยใช้ คอนเซปต์ที่ว่า “สัมผัสชีวิตเพลินๆ ที่หัวหิน” รูปแบบอาคารมีการนำสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเฉพาะตัว สไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานกลิ่นอายย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 7 โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก บ้านไม้สีขาว หน้าต่างบานสูง โปร่ง...รับลมเย็นสบาย ระแนงไม้โปร่งสีขาว
ทั้งนี้แต่ละยูนิตมีการออกแบบพื้นที่ห้อง ซึ่งคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานที่ลงตัว ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยด้วยการแบ่งพื้นที่พักผ่อน ห้องน้ำ และห้องครัวอย่างเป็นสัดส่วน ตั้งอยู่บริเวณเขาตะเกียบ บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ เป็นอาคารสูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 352 ยูนิค มีห้องให้เลือก 3 แบบ ราคาเริ่มต้นที่ 1.55 ล้านบาท มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ คลับเฮาส์ สระน้ำขนาดใหญ่และฟิตเนส รวมถึงสวนส่วนกลาง โดยมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 662 ล้านบาท
อีกโครงการเป็นคอนโดมีเนียม ภายใต้ชื่อ “บ้านทิวลม ชะอำ” เป็นการนำและเชื่อมโยงเรื่องราวดั้งเดิมของชะอำ มาสู่สถาปัตยกรรมที่สื่อสารและถ่ายทอดวิถีชีวิตที่เคยเป็น เพื่อสร้างให้เป็นที่อยู่อาศัยตากอากาศ ที่สร้างแรงบันดาลใจในการพักผ่อนอย่างคุ้มค่าเกินราคา
“แสนสิริตั้งใจสร้างคอนโดฯ ที่ไม่เพียงเฉพาะเป็นที่พักผ่อน หรือที่อยู่อาศัยเท่านั้น เนื่องจากทั้ง หัวหิน และชะอำ มีความเป็นมาแตกต่างกัน และแต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์ของเมืองตากอากาศแตกต่างกัน แต่ละโครงการ เราจึงศึกษาในรายละเอียดต่างๆ ก่อนดำเนินโครงการ เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดทั้งด้านความสวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวก สิ่งแวดล้อม ในราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะการสร้างให้ผู้อยู่อาศัยมีความภูมิใจ และให้เกียรติต่อท้องถิ่น เท่ากับเราพัฒนาและสร้างสรรค์การใช้ชีวิตทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งนับเป็นแนวคิดของแสนสิริ ที่จะเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีศักยภาพ”
นายเมธา กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะตลาดคอนโดมีเนียมหัวหิน และชะอำในปีหน้าว่า ราคาที่ดินมีแนวโน้มขยับสูงขึ้นมากกว่าปีนี้ ผลจากบริษัทพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ มีโครงการลงทุนทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม รีสอร์ท รวมถึงห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น หลังชะลอการลงทุน เนื่องจากเกิดวิกฤติการการเงินโลกที่ผ่านมา สำหรับคอนโดมีเนียม มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีราคาสูงขึ้น ขณะที่ภาวะการแข่งขันก็จะมีความรุนแรงยิ่งขึ้นเช่นกัน
“ตัวเลขสะสมจำนวนห้องพักคอนโดฯ หัวหิน และชะอำในปีนี้มีทั้งสิ้นประมาณ 17,000 ยูนิต เป็นการสร้างใหม่ในครึ่งปีแรกประมาณ 4,000 ยูนิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบ 1 ห้องนอน สำหรับยอดซื้อ-ขายห้องพักคอนโดฯ ในครึ่งปีแรกนี้มีอยู่ 1,600 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ที่ 1,300 ยูนิต โดยแบ่งเป็นกลุ่มคนไทย 70 % ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นคนกรุงเทพฯ ที่เหลือเป็นชาวต่างจากกลุ่มสแกนดินีเวีย รัสเซีย และเยอรมนี สะท้อนให้เห็นว่าที่อยู่อาศัยที่หัวหิน และชะอำมีแนวโน้มที่ดี เราเองก็มีแผนงานที่จะเป็นส่วนหนึ่งต่อการพัฒนาและยกระดับคอนโดฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายเมธา กล่าว
นอกจากโครงการบ้านเพียงเพลิน หัวหิน และบ้านทิวลม ชะอำ แล้ว ทางบริษัทฯ ยังมีแผนงานที่จะขยายการลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยบริเวณเมืองตากอากาศในอนาคต โดยมีทำเลที่ตั้งที่ทางบริษัทฯ ให้ความสนใจอยู่ 2-3 แห่ง อย่างไรก็ตามแนวคิดของโครงการในอนาคตจะยังคงให้ความสำคัญต่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยเป็นหลักเช่นเดิม