ก.ล.ต. กล่าวโทษนายสมจิตร โบว์เสรีวงศ์ กรรมการและผู้บริหารของ บมจ. สิงห์ พาราเทค กรณีตกแต่งงบการเงินปี 2550

พุธ ๑๒ ธันวาคม ๒๐๑๒ ๑๗:๒๕
ก.ล.ต. กล่าวโทษนายสมจิตร โบว์เสรีวงศ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทสิงห์ พาราเทค จำกัด (มหาชน) (“SINGHA”) ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2555 เนื่องจากมีการกระทำที่เข้าข่ายจัดทำและเปิดเผยข้อมูลเท็จในเอกสารบัญชีและงบการเงินของบริษัท อันเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า นายสมจิตรได้ดำเนินการหรือมีส่วนรู้เห็นยินยอมให้มีการจัดทำเอกสารและบันทึกรายได้จากการขายอันเป็นเท็จในบัญชีและงบการเงินของ SINGHA ในปี 2550เป็นเงินรวม 543.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 47.3 ของยอดขายสินค้า เพื่อให้ SINGHA สามารถแสดงผลกำไรสุทธิจากการดำเนินการในปี 2550 จำนวน 63.7 ล้านบาท ซึ่งหากไม่มียอดรายได้ดังกล่าวผลประกอบการในงบการเงินของ SINGHA จะแสดงผลขาดทุน

โดยรายได้ที่เชื่อว่าเป็นเท็จดังกล่าว คือ รายการขายสินค้าประเภทพื้นไม้สำเร็จรูปให้กับลูกค้าในประเทศ9 แห่ง ในปี 2550 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายใหม่ และต่อมางบการเงินในปี 2551 SINGHA ได้บันทึกรายจ่ายหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนเงินสูงถึง 320.8 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากยอดขายสินค้าให้แก่ลูกค้าในประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ในปี 2551 งบการเงินของ SINGHA ที่ยื่นต่อ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 ได้แสดงผลขาดทุนสุทธิจำนวน 944.7 ล้านบาท

ทั้งนี้ การที่นายสมจิตรอยู่ระหว่างถูกกล่าวโทษดำเนินคดีโดย ก.ล.ต. เพราะเหตุต้องสงสัยเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จดังกล่าว ทำให้นายสมจิตรเป็นบุคคลที่มีลักษณะขาดความเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารกิจการที่มีมหาชนเป็นผู้ถือหุ้น ตามข้อ 4(3) ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต.ที่ กจ. 8/2553 เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ลงวันที่ 23 เมษายน 2553 และมีผลให้นายสมจิตรต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทจดทะเบียนและจะดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทต่อไปไม่ได้ตามนัยมาตรา 89/4 และมาตรา 89/6 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ด้วย ดังนั้น ก.ล.ต. จึงไม่สามารถแสดงชื่อของนายสมจิตรในระบบข้อมูลรายชื่อผู้บริหารบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ

อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้นภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นอำนาจและดุลพินิจของศาลยุติธรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๐๐ รำไพพรรณีจับมือโรงเรียนในจันทบุรี พัฒนาทักษะภาษา สู่ความเป็นเลิศ
๐๙:๐๐ DITP แถลงข่าวตอกย้ำความสำเร็จ E-Academy ภายใต้แนวคิด Beyond Boundaries Transform Knowledge into Impact
๐๙:๐๐ เปิดให้จองแล้ว Samsung Galaxy S25 Series ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ของคนไทย พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
๐๙:๐๐ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ เชิญร่วมงานเสวนา โปรตุเกส.เหตุที่รั
๐๙:๐๐ การเคหะแห่งชาติจับมือ 3 หน่วยงาน พัฒนาศักยภาพเพิ่มทักษะชาวชุมชนหวังสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
๐๙:๐๐ ก้อย-นัตตี้-ดรีม ชีเสิร์ฟความฮอตแบบไม่พัก รับบทพรีเซ็นเตอร์ชุดชั้นในวาโก้ โชว์ความเนียนยืนหนึ่งระดับตัวมัม!
๐๙:๐๐ เจาะลึกคีย์เทคโนโลยี AI ฝีมือคนไทย บนแอปสินเชื่อ มันนี่ทันเดอร์ พลังขับเคลื่อนสำคัญที่ อบาคัส ดิจิทัล
๐๘:๑๓ เปิดความปัง มั่งมีรับปีใหม่ กับ แมคโดนัลด์ 'มั่งมีเบอร์เกอร์ x MY MELODY' ยกขบวนความน่ารัก MY MELODY กับแพ็กเกจจิงและ กระเป๋า Tote Bag
๐๘:๑๑ ถอดรหัสความสำเร็จ Fundao แบรนด์กระเป๋าไทยของผู้หญิงยุคใหม่ กับสถิติยอดขายช่วงแคมเปญเพิ่มขึ้นกว่าปกติถึง
๐๘:๐๐ เปลี่ยนธุรกิจคุณให้โตคูณร้อย กับหลักสูตร CMF เปิดรับสมัครรุ่นที่ 21 แล้ววันนี้ !!