นายประวิทย์ โชติปรายนกุล ผู้อำนวยการ สถาบันรหัสสากล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เล่าถึงการเตรียมความพร้อมด้านเงินทุน การพัฒนากระบวนการผลิตให้เข้าสู่มาตรฐานสากล ว่า การตลาดที่เข้าถึงวัฒนธรรมบริโภคของทั้ง 10 ประเทศสมาชิก AEC เป็นสิ่งที่สำคัญ และหลายธุรกิจในไทยตื่นตัวกันเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ธุรกิจและสินค้าที่พัฒนาเข้าสู่รหัสมาตรฐานสากล GS1 หรือ บาร์โค้ดมาตรฐานสากล ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นสิ่งที่นักธุรกิจไทยต้องตระหนัก พร้อมกับนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะก่อนที่ธุรกิจไทยจะก้าวสู่สนามการค้าที่เต็มไปด้วยโอกาส หากไม่เตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน โอกาสก็แปรเปลี่ยนเป็นวิกฤตได้เช่นกัน
"การเคลื่อนย้ายสินค้า จากตลาดหนึ่งไปสู่อีกตลาด หากมีกระบวนการบริหารจัดการในระบบ Supply Chain ที่มีประสิทธิภาพ จะมีส่วนขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่เป้าหมายได้ไม่ยาก แต่ในทางกลับกัน หากขาดซึ่งรหัสมาตรฐานสากล GS1 หรือ บาร์โค้ดมาตรฐานสากล มารองรับ อาจทำให้ผู้ประกอบการในไทย โดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดย่อม ต้องประสบปัญหา อาทิ การเรียกคืน สินค้า และอื่นๆ ตามมา"
กรณีศึกษาที่เกิดขึ้นแล้วกับธุรกิจรายหนึ่งของไทยในการจัดส่งสินค้าไปยังประเทศแต่สินค้าล็อตนั้นใช้บาร์โค้ดที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล GS1 ทำให้ต้องแก้ไขบาร์โค้ดให้ถูกต้อง นับว่าเป็นการเสียโอกาสทางธุรกิจ เสียเวลาในการจัดจ้างแรงงานเพื่อติดรหัสบาร์โค้ดที่ถูกต้องใหม่ไปในสินค้า ที่สุดแล้วก็เกิดเป็นต้นทุน สุดท้ายผู้ประกอบการรายนั้นแทบจะไม่เหลือกำไรใน การขายสินค้าครั้งนั้น
ผอ.ประวิทย์ ย้ำว่า ปัจจุบันรหัสมาตรฐานสากล GS1 มีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นต่อการค้าในอนาคต มีใช้อย่างแพร่หลายในกว่า 150 ประเทศ ในการกำหนดมาตรฐานสินค้า ซึ่งทางสถาบันฯ ได้มีบทบาทในการให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการนำ รหัสมาตรฐานสากล GS1 ไปใช้ในภาคธุรกิจทั้ง 10 ขั้นตอน การประยุกต์ใช้บาร์โค้ดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย 1.การกำหนดหมายเลขประจำตัวบริษัท 2.การกำหนดเลขหมายประจำตัวสินค้า 3. วิธีการจัดพิมพ์บาร์โค้ด 4. การเลือกคุณลักษณะขั้นต้นของการสแกนบาร์โค้ด 5. การเลือกใช้บาร์โค้ดสำหรับผลิตภัณฑ์ 6. การเลือกขนาดของบาร์โค้ด 7. รูปแบบการกำหนดตัวอักษรในบาร์โค้ด 8.การเลือกคู่สีของแท่งบาร์โค้ด 9. การวางตำแหน่งบาร์โค้ด และ 10.วางแผนควบคุมคุณภาพบาร์โค้ด
วันนี้หลายประเทศในโลกนี้ให้ความสำคัญ และคู่ค้าที่จะทำการค้าด้วยต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามระบบมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งหนึ่งในข้อเด่นของรหัสมาตรฐานสากล GS1 ก็คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาตรฐานสากล GS1 ร่วมกับระบบการสืบย้อนกลับ (Traceability) ที่ในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ จากผู้ผลิต ถึงมือผู้บริโภค ระบบมาตรฐานที่นำมาใช้ทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน นั่นคือ ผู้ผลิต ตรวจสอบได้ในความ ที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตสินค้าและการจัดเก็บในคลังสินค้า เป็นต้น
ด้านคู่ค้า สามารถตรวจสอบว่า สินค้าล็อตนั้นๆ ขณะนี้ดำเนินการขนส่งไปอยู่ ณ จุดไหน ส่วนผู้บริโภคสามารถได้ประโยชน์จากการทราบถึงแหล่งที่มาของสินค้าที่มีความผิดพลาดนั้น เกิดจากขั้นตอนการผลิต วัตถุดิบ หรืออื่นๆ การทำความรู้จักกับบาร์โค้ดมาตรฐาน GS1 System ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะบาร์โค้ดระบบ GS1-128 เพื่อการบริหารจัดการโลจิสติกส์ และซัพพลายเชนในภาคธุรกิจ เป็นสิ่ง ที่ ผอ. ประวิทย์ ย้ำว่า มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยทั้งวันนี้ และในอนาคต
ติดต่อ:
สถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand)
www.gs1thailand.org
02-345-1195