โดยในงานแคมไฟครั้งนี้มีประชาชนกว่า 5 พันคนเดินทางไปร่วมงานเต็มไร่ หอบลูกจูงหลานไปกลางเต้นท์ และชื่นชมงานศิลปะ และเสียงดนตรี อย่างเต็มอิ่ม และมีกิจกรรมอาร์ตแคมป์ ที่ให้เด็กๆเยาวชนมาเรียนรู้และลองสร้างสรรค์งานศิลปะ การแสดงดนตรี สินค้าทำมือ กลุ่มดนตรีอินดี้ที่นำผลงานมาโชว์ในงาน ส่วนการแสดงดนตรีในช่วงเย็นเริ่มด้วย วีทีอาร์หุบกะพง ดินแดนพระราชา การแสงศิลปวัฒนธรรมโนราห์แม่ละมัย ลิเกฮูลู ก่อนเปิดฉากความสนุกสุขใจกับ ไข่ มาลีฮวนน่า ที่ขนเพลงฮิตมาโชว์แบบจัดเต็มเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าเพลง เรือรักกระดาษ,แสงจันทร์,หัวใจพรือโจ้,หัวใจละเหี่ย,ลัง และเพลงมารเวลาเพลงใหม่จากอัลบั้มปลาสองน้ำท่ามกลางแฟนๆที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเต็มไร่หุบกระพง และยังมีการแของเหล่าศิลปิน รับเชิญ อาทิ มาโนช พุฒตาล โดยเฉพาะ ชาย เมืองสิงห์ ไม่ทิ้งลายแมนซิตี้ไลอ้อนแม้สุขภาพจะไม่อำนวยต้องนั่งอยู่บนรถเข็นร้องเพลง แต่เรียกเสียงปรบมือจากแฟนๆทั้งงานกึกก้อง ด้วยลีลาน้ำเสียงกับบทเพลงเด็ดทั้ง เมียพี่มีชู้,จ่ำม่ำ,มาลัยเสี่ยงรัก,ทำบุญร่วมชาติ ทำเอาแฟนเพลงนั่งไม่ติดออกมา รำกันกันอย่างสนุกสนาน
ทางด้าน เขียว คาราบาว ก็มาพร้อมบทเพลง มนต์เพลงคาราบาว และสัญญาหน้าฝน มาเรียกความมันส์ เช่นเดียวกับ สีเผือก คนด่านเกวียน ที่ไม่พลาดนำเพลงเด่นทั้ง ลอยลมบน,เด็กปั้ม,ชาวนาอาลัย ,ไอหิน มาเขย่าความมันส์ให้นั่งกันไม่ติดตามด้วยการแสดงของวง แฮมเมอร์ ที่ไม่พลาดนำเพลง ปักษ์ใต้บ้านเรา,บินหลา,ที่นี้ไม่มีครูมาฝาก,กรุงเทพราตรี,ผีเสื้อ,ปาดังเบซาร์ และยังมีการแสดงของ วงสินเจริญ บาร์เธอร์, หลวงไก่ และ ยงยุทธ ด้ามขวาน อีกด้วย นอกจากนั้น ยังมีแสดงของวงดนตรีเด็กน่ารัก วงฮากระจุกบนเวที พร้อม อ่านกวีรับเชิญ จิรนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรท์ และ ศิริวร แก้วกาญจน์,ท้าวแพงคำ อูเมาะกีตอ เรียกได้ว่าได้รับอรรถรสหลากหลายกันแบบเต็มอิ่มยันฟ้าสว่าง ไข่ มาลีฮวนน่า ก็ได้ออกมาปิดท้ายด้วยบทเพลงอพลา ก่อนจะฝากที่จะมาพบกันอีกครั้งในงานแคมป์ไฟดนตรีครั้ง ที่ 5 ธันวาคมปีหน้า สำหรับงานเทศกาลนตรี กวีศิลปะมาลีฮวนน่าในครั้งนี้นั้นได้มอบรายได้ส่วนหนึ่งช่วยเป็นค่ารักษาพยาบาลให้ชาย เมืองสิงห์ ศิลปินแห่งชาติ และ โรงเรียนหุบกะพง โรงเรียนวัดหนองยาว ที่หุบกะพง จ.เพชรบุรีอีกด้วย