นายวสันต์ เคียงศิริ ผู้บริหารกลุ่มบริษัทธารารมณ์ แถลงต่อผู้สื่อข่าวถึงผลประกอบการปี 2555 ว่า กลุ่มบริษัทธารารมณ์สามารถทำยอดขายได้ 1,500 ล้านบาท ตามที่ตั้งไว้ โดยโตจากปีที่แล้วร้อยละ 25 สำหรับปี 2556 กลุ่มบริษัทธารารมณ์ตั้งเป้า 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 โดยสัดส่วนโครงการแนวราบ 80 ต่อแนวสูง 20 ตั้งงบการลงทุน 2 เท่าตัว คิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านบาท สำหรับ Key Success Factors ที่ทำให้เราประสบความสำเร็จมาโดยตลอดคือ การรักษาสภาพคล่อง และ นโยบายการทำธุรกิจให้ตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการสร้างโครงการและแบบบ้านที่ให้ลูกค้าได้พื้นที่ใช้สอยอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด แบบ Functional Needs ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการอยู่อาศัยจริง และในปีหน้าธารารมณ์มีแบบบ้านใหม่ๆ อีกหลายแบบมานำเสนอภายใต้แนวคิดดังกล่าว
นายคณิต ฉายรัตนอภิรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด สินค้ากลุ่ม First Home Buyer กล่าวว่า ในปี 2556 มีกำหนดเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ คือ คอนโด The Link Vano 64 คอนโด Low Rise ความสูง 8 ชั้น ใกล้รถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถี และ บ้านเดี่ยว Trendy Tara บางใหญ่ บนถนนลาดปลาดุก เนื่องจากศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์โซนตะวันตกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นทำเลที่สะดวกสบายในการเดินทางและทุกๆ ด้านของการอยู่อาศัย พร้อมแผนเปิดขายบ้านแบบใหม่ ขนาดกลาง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 200-250 ตารางเมตรในโครงการปัจจุบัน บ้านเดี่ยว Trendy Tara พระราม 2 โดยใช้กลยุทธ์แบบ Micro Marketing ทำตลาดแบบแยกโซนและเฉพาะเจาะจง ให้ตรงกับกลุ่มลูกค้า เช่น ออกบูธในห้างสรรพสินค้า, Moving Ad, จัดทำวารสารท้องถิ่น รวมทั้งจัดกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานราชการที่บริหารจัดการในโซนที่ตั้งของโครงการ ในส่วนของ Sale Focus จะปรับวิธีการให้พนักงานขายมีส่วนในการจัดกลุ่มสินค้าพร้อมขายที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และเสริมด้วยไดเร็คเซลส์ นำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นแบบ One-on-One ตรงถึงลูกค้าแต่ละราย รวมไปถึงการปรับปรุงเว็บไซต์และเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าได้มากขึ้น
นายณัฐพล มัททวกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด สินค้ากลุ่ม Move Up Buyer กล่าวถึงแผนการตลาดในปี 2556 ว่า กลยุทธ์หลักที่ใช้ คือ Visual Marketing มุ่งเน้นการใช้ภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดการรับรู้สินค้าอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยนำมาใช้ใน 4 แกนหลักของการทำตลาด ได้แก่ Visual Merchandising ด้วยการจัด-ตกแต่งบ้านและโครงการให้สดใหม่ โดดเด่น และดึงดูดความสนใจมากขึ้น, Visual Price จัดทำราคาให้ลูกค้าจับต้องได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการออมดาวน์ และกระตุ้นการขายด้วยโปรโมชั่นที่เหมาะกับจังหวะและอารมณ์ของลูกค้า, Visual Channel เพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้าผ่านโทรศัพท์มือถือ ด้วยแอพพลิเคชั่น “Tararom To Go”, Visual Communication เพิ่มจำนวนพนักงานขายและการสื่อสารให้มากขึ้น อีกทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อมอบความคุ้มค่าที่สุดให้แก่ลูกค้า
นายวสันต์กล่าวเสริมถึงกิจกรรมต่างๆ ในปีหน้าว่า ธารารมณ์มีกำหนดกิจกรรมกับ Stakeholders เพื่อมุ่งสู่การเฉลิมฉลองการก้าวสู่ปีที่ 45 และนอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจด้วยความเข้าใจแล้ว ธารารมณ์ยังเดินหน้าการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง กับโครงการ “ธารารมณ์สร้างสรรค์สังคม” ที่ให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่นักเรียนระดับอาชีวศึกษา และร่วมมือกันปรับปรุงห้องน้ำให้แก่โรงเรียนระดับประถมศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานครและสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย
นายวสันต์กล่าวย้ำความเชื่อมั่นของธารารมณ์ว่า การที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกเรา มาจาก 2 เรื่องหลักคือ “บ้านที่ได้คุณภาพ” และ “ความไว้วางใจ” ซึ่งธารารมณ์สร้างขึ้นมาด้วยความรักและความเอาใจใส่ในงานเสมอมา