นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 19 -23 ธันวาคม 2555 จะนำคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ ) เยือนสาธารณรัฐอินเดียและสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศในกิจกรรมชักจูงและส่งเสริมความร่วมมือการลงทุนระหว่างกันในโอกาสที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประชุมสุดยอดอาเซียน — อินเดียสมัยพิเศษและเยือนบังคลาเทศอย่างเป็นทางการด้วย
ทั้งนี้ บีโอไอจะจัดกิจกรรมพบปะหารือกับบริษัทชั้นนำของอินเดียที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว อาทิ อดิตยา เบอล่า กรุ๊ป (ADITYA BIRLA GROUP) ผู้ผลิตคาร์บอนแบล็คและเส้นใยเรยอนอันดับหนึ่งของโลกและหารือกับ ทาทา กรุ๊ป (TATA GROUP) บริษัทใหญ่อันดับหนึ่งของอินเดีย ที่ดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมเหล็ก และยานยนต์
สำหรับการเยือนสาธารณรัฐบังกลาเทศนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมงาน ประชุมเครือข่ายธุรกิจระหว่างไทยและบังกลาเทศ (BUSINESS NETWORKING RECEPTION AND DINNER) เพื่อพบปะนักธุรกิจบังกลาเทศ 200 รายจากสมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมบังกลาเทศ (FEDERATION OF BANGLADESH CHAMBER OF COMMERCE AND INDUSTRY: FBCCI) ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนสูงสุดของภาคเอกชนของบังกลาเทศในการดูแลผลประโยชน์ด้านการค้าและด้านอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันรวมถึงเน้นย้ำความสนใจของภาคเอกชนไทยต่อการลงทุนในบังกลาเทศ
ด้านนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกล่าวว่า อดิตยา เบอล่า กรุ๊ป (ADITYA BIRLA GROUP) ได้มีการลงทุนในประเทศไทยโดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 28,000 ล้านบาท ผลิตคาร์บอนแบล็คและเส้นใยเรยอนตั้งโรงงานในหลายพื้นที่ ได้แก่อ่างทอง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการและระยอง โดยจังหวัดอ่างทองเป็นจังหวัดที่บริษัทมีโครงการลงทุนมากที่สุดคือ 18 โครงการ
ขณะที่ ทาทา กรุ๊ป (TATA GROUP) ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยได้ก่อตั้งบริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้น ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทาทา มอเตอร์ส จำกัด และบริษัทในเครือธนบุรีกรุ๊ป ผลิตและจำหน่ายรถยนต์และรถกระบะบรรทุกขนาดเล็ก (ปิคอัพ) ในประเทศไทย มูลค่าเงินลงทุนในไทยประมาณ 1,300 ล้านบาท ผลิตรถปิคอัพ 35,000 คันต่อปี เน้นการจำหน่ายในประเทศประมาณ 80%
ทั้งนี้บีโอไอมีเป้าหมายส่งเสริมการลงทุนระหว่างไทยและภูมิภาคเอเชียใต้ทั้งสองทาง ขณะที่อินเดียจะมีทั้งการลงทุนจากอินเดียมาไทยและไทยไปอินเดีย แต่สำหรับบังกลาเทศจะเน้นการสนับสนุนให้บริษัทไทยไปลงทุนในธุรกิจที่ใช้แรงงานมาก เช่น อาหาร สิ่งทอ เครื่องหนังตลอดจนการก่อสร้างเป็นต้น
อย่างไรก็ตามจากสถิติการลงทุนจากอินเดียในไทยในขั้นคำขอรับการส่งเสริมระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม 2555 มีจำนวน 23 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 2,885 ล้านบาท ใกล้เคียงกับการลงทุนในปี 2554 ทั้งปี ที่มีโครงการลงทุนจากอินเดียยื่นขอรับการส่งเสริมลงทุน 13 โครงการมูลค่า 3,180 ล้านบาท