เวลา 15.30 น. ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเฉิน ฉุนเกิน ประธานสภาประชาชนนครฉงชิ่งและผู้บริหารหลายฝ่าย โดยได้กล่าวต้อนรับและแนะนำนครฉงชิ่งเป็นมหานครแห่งเดียวทางฝั่งตะวันตกของจีนที่ขึ้นตรงกับรัฐบาลกลาง มีประชากร 33 ล้านคนแบ่งการปกครอง 40 เขต ซึ่งยกระดับเป็นมหานคร เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาจีนตะวันตก เป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมหนักเช่นรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ มีความสำคัญต่อระบบโลจิสติกส์ของจีนในการขนส่งสินค้าทั้งทางน้ำและทางบก และในท้ายสุดนายเฉิน ฉุนเกิน ยังกล่าวย้ำว่า "ผมเชื่อมั่นว่าการที่ท่านประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย มาเยือนนครฉงชิ่งนับว่าเป้นเกียรติอย่างสูงและจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือ ในหลายด้านและเพิ่มพูนไมตรีของประชาชนทั้งสองประเทศ และข้าพเจ้าขอแสดงท่าที ยินดีต้อนรับนักธุรกิจชาวไทยมาลงทุนในนครฉงชิ่งของเรา"
และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาไทย ได้กล่าวขอบุคณและเน้นย้ำการแปลงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างเชื้อชาติไทยจีนในอดีตให้เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้เพื่อความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศ ประเทศไทยมีความพร้อมในการศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จึงเป็นเหมือนประตูสู่อาเซียนจึงขอเชิญชวนนักธุรกิจจีนไปลงทุนที่ประเทศไทย พร้อมจะให้การสนับสนุนและประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
เวลา 18.30 น. นายเฉิน ฉุนเกิน ประธานสภาประชาชน นครฉงชิ่ง เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาไทย
วันที่ 16 ธันวาคม2555 เวลา 10.00 น. คณะฯได้เดินทางออกจากโรงแรมที่พักไปยังท่าอากาศยานนครฉิงชิ่งไปยังนครคุนหมิงใช้เวลา เดินทาง 1ชั่วโมง10นาที และเดินทางต่อโดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 613 เดินทางกลับประเทศไทย