สพฉ. เตือนกลุ่มเสี่ยง “เด็ก-ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง” รับมือภาวะอากาศหนาว ชี้อุณหภูมิลดมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจและระบบความดันโลหิต

พุธ ๑๙ ธันวาคม ๒๐๑๒ ๐๘:๑๓
สพฉ. เตือนกลุ่มเสี่ยง “เด็ก-ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง” รับมือภาวะอากาศหนาว ชี้อุณหภูมิลดมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจและระบบความดันโลหิต แนะการช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อพบผู้ป่วย เร่งทำร่างกายให้อบอุ่น ย้ำห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ระมัดระวังการผิดไฟแก้หนาว

นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึง สถานการณ์ภัยหนาวในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่าขณะนี้อุณหภูมิในแต่ละพื้นที่เริ่มลดต่ำลงซึ่งอาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติด้วย ดังนั้นขอแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง คือ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพาต เพราะอากาศที่หนาวเย็นอาจส่งผลให้สมองและประสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติรวมถึงทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติด้วย

นอกจากนี้สภาพอากาศที่หนาวเย็นยังทำให้ร่างกายต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มมากขึ้นและระบบความดันโลหิตจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย ดังนั้นกลุ่มผู้ป่วยที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจหลอดเลือด เพราะจะมีระดับความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงควรเตรียมยาประจำตัวให้พร้อม และรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ แต่ทั้งนี้หากพบผู้ป่วยฉุกเฉินควรรีบแจ้งขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่สายด่วน 1669 โดยการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในเบื้องต้นนั้น จะต้องรีบทำให้ร่างกายผู้ป่วยอบอุ่น กรณีที่อยู่กลางแจ้ง ควรหาผ้าคลุมถึงหน้าและศีรษะ เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน จัดที่ให้ผู้ป่วยนอนนิ่งๆ ในท่านอนหงายบนพื้นที่อบอุ่นหรือมีผ้าหนาๆ ปูรอง และหากผู้ป่วยรู้สึกตัวให้ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะเป็นความเชื่อที่ผิดรวมทั้งจะเป็นการเร่งให้ร่างกายสูญเสียความร้อนมากขึ้นด้วย

สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อากาศหนาวจะต้องระมัดระวังวิธีช่วยให้ร่างกายอบอุ่นด้วย เช่น การผิงไฟแก้หนาวเพราะมีความเสี่ยงอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ ไฟลวก และขาดอากาศหายใจ เนื่องจากสำลักควันได้ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ ทั้งนี้หากเป็นหวัด ถ้าออกนอกบ้านให้สวมผ้าปิดปากป้องกันการติดเชื้อสู่คนรอบข้าง และหากร่างกายเปียกน้ำให้รีบเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อป้องกันภาวะปอดบวม

นพ.ชาตรี กล่าวต่อว่า นอกจากอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินแล้ว อุบัติเหตุเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่มีสถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมาก ด้วยเพราะทัศนวิสัยที่ไม่เอื้ออำนวย ดังนั้นผู้ที่ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวัง ซึ่งหากต้องขับรถผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาให้เปิดสัญญาณไฟหน้ารถและไฟตัดหมอก เพื่อให้มองเห็นเส้นทางได้ชัดเจนขึ้น ห้ามเปิดใช้สัญญาณไฟสูง เพราะแสงไฟจะสะท้อนเข้าตาผู้ขับขี่รายอื่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ที่สำคัญควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่แซง ไม่เปลี่ยนช่องทางหรือหยุดรถกะทันหัน และกรณีมีละอองฝ้าเกาะกระจกรถ ให้เปิดที่ปัดน้ำฝน พร้อมทั้งใช้ผ้าแห้งเช็ดกระจก ปรับลดอุณหภูมิในรถให้ต่ำกว่านอกรถ ลดระดับกระจกหน้าต่างลง จะช่วยไล่ละอองน้ำที่เกาะตามกระจากรถให้จางหายไปเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามหากพบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรแจ้งได้ที่สายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือ และขอคำแนะนำได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version