ดร. สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “กรมสรรพากรสนับสนุนให้ผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มหันมาใช้ระบบใบกำกับภาษีเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax Invoice แทนการออกใบกำกับภาษี แบบกระดาษตามนโยบาย e-Government เพราะผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้องและรวดเร็วแล้ว e-Tax Invoice ยังช่วยลดภาระต้นทุนให้กับผู้ประกอบการได้อย่างมาก ทั้งในแง่การลดการใช้กระดาษ ไม่ต้องใช้พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลในรูปแบบกระดาษ และสามารถจัดทำรายงานภาษีซื้อภาษีขายได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ทั้งผู้ประกอบการ ลูกค้า และกรมสรรพากร ต่างก็มีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อนด้วย”
นางสาวเพรามาตร หันตรา ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้มีสิทธิจัดทำใบกำกับภาษีและใบรับอิเล็กทรอนิกส์จะต้องเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชน จำกัด ที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 10 ล้านบาทขึ้นไปหรือเป็นหน่วยงานของรัฐ มีการจัดทำบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการออกใบกำกับภาษีและใบรับด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ตลอดจนต้องมีความมั่นคงและความน่าเชื่อถือในการประกอบการ เช่น มีประวัติการเสียภาษีที่ดี ไม่มีพฤติกรรม ในการหลีกเลี่ยงภาษี ไม่มีประวัติการใช้ใบกำกับภาษีปลอม ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ได้จากระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2555 หรือยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดทำ e-Tax Invoice ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th”