สธ.เตือนเทศกาลปีใหม่เดินทางท่องเที่ยวระวังสุขภาพ-อุบัติเหตุ แนะฉลองอย่างไรปลอดภัย ปลอดโรค

พฤหัส ๒๗ ธันวาคม ๒๐๑๒ ๑๖:๒๓
จากข้อมูลการสำรวจพบว่าสถานที่ท่องเที่ยว 10 อันดับแรก ที่ประชาชนตั้งใจจะไปเที่ยวมากที่สุดในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ อันดับหนึ่งคือเชียงใหม่ร้อยละ 26.9 อันดับสองคือแม่ฮ่องสอนร้อยละ 18.4 อันดับสามคือเลยร้อยละ 13.2 ตามด้วย เชียงราย กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต พังงา อยุธยา กระบี่ และชลบุรี ตามลำดับ

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน หลายคนมีแผนที่จะใช้เวลาช่วงวันหยุดฉลองปีใหม่ร่วมกับครอบครัว คนรักและเพื่อนฝูงด้วยการเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นเช่นจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ยอดฮิตอันดับหนึ่งที่ประชาชนอยากไปเที่ยวมากที่สุด การที่ผู้คนเดินทางไปท่องเที่ยวเชียงใหม่และสถานที่ต่างๆเป็นจำนวนมาก ย่อมจะทำให้สภาพการจารจรแออัด หากไม่มีการป้องกันที่ดีพออาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นและรุนแรงมากขึ้นโดยเฉพาะจากการ“เมาแล้วขับ” ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่อยากให้เกิดขึ้นและได้มีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องในทุกๆปี โดยในปีนี้ได้ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รณรงค์“สถานีผู้พิทักษ์ถนนปลอดภัย” ภายใต้โครงการป้องกันและลดการตายจากอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการ มีกรมควบคุมโรคเป็นเลขานุการโครงการเน้นให้ประชาชนปฏิบัติตามใน 4 เรื่องหลักๆ คือ 1) การสวมหมวกกันน็อก 2) การคาดเข็มขัดนิรภัย3) การดื่มแล้วไม่ขับ และ 4) การไม่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด

ด้านดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุจราจรทางบกสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 - 2554 พบว่าทั่วประเทศมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุมากถึง 328,222 ราย และเสียชีวิตรวม 59,082 ราย เฉพาะปี พ.ศ. 2554 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวน 68,583 ราย มีผู้บาดเจ็บ 21,916 ราย และเสียชีวิต 9,205 ราย ถ้านับแค่ช่วง 7 วันอันตราย ในเทศกาลปีใหม่ 2554ที่ผ่านมาประเทศไทยเกิดอุบัติเหตุ 3,750 ครั้ง บาดเจ็บ จำนวน 3,750 ราย และเสียชีวิต จำนวน 358 ราย

สาเหตุหลักๆของอุบัติเหตุเกิดจาก 1.ขับมอเตอร์ไซด์ไม่สวมหมวกนิรภัย 2. ขับรถยนต์ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 3. เมา ง่วง แล้วขับรถ และ4. ขับรถเร็วเกินกำหนด ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนประมาณ 13,000 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 คน โดยพบว่าส่วนใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับและเกินครึ่งมักตรวจพบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือด แม้ว่าผู้ประสบอุบัติเหตุจะไม่สูญเสียชีวิต ก็อาจได้รับผลกระทบต่อการสูญเสียสุขภาวะหรือพิการ ทำให้สูญเสียโอกาสที่จะดำรงชีวิตตามปกติ

การเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ นอกจากเรื่องเมาไม่ขับ ดื่มไม่ขับเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนแล้วอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวต่ออีกว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ประชาชนไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลสุขภาพและการเตรียมพร้อมทั้งก่อนและระหว่างการเดินทาง เพื่อจะได้ฉลองปีใหม่กันอย่างมีความสุขสนุกสนาน ปราศจากโรคภัยและความสูญเสียทั้งปวง โดยก่อนเดินทางควรเตรียมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มต่างๆให้พร้อมหากต้องเดินทางไปยังสถานที่ ที่มีอากาศหนาวเย็น ควรตรวจเช็คสภาพยานพาหนะให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ตรวจเช็คเส้นทางการเดินทางล่วงหน้า ตรวจเช็คสถานที่ที่จะไปพักทั้งในเรื่องของความสะอาด อากาศ ความสะดวกสบาย บริการและสาธารณูปโภค อุปกรณ์จำเป็นหลายๆอย่างต้องเตรียมติดรถไว้เสมอ เช่น ไฟฉาย ผ้าสะอาดสำหรับเช็ดกระจก น้ำสะอาดสำหรับดื่มและใช้ ยางอะไหล่ในสภาพพร้อมใช้งาน สายพ่วงแบ็ตเตอรี่ เชือกเส้นใหญ่ๆสำหรับลากในกรณีรถเสีย ร่ม แว่นกันแดด ปาสเตอร์ปิดแผล ยาลดไข้แก้ปวด ยาแก้ท้องเสียหรือยาที่ต้องทานเป็นประจำ และควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่แออัด หรือ เกิดโรคระบาด รักษาร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอก่อนการเดินทาง ระวังเรื่องความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม อาหารใดที่ไม่คุ้นเคย หรือไม่แน่ใจในขั้นตอนการปรุงอาหารหรือความสะอาด ควรหลีกเลี่ยง เลือกอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และควรกินแต่พอประมาณ ใช้หลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือก่อนและหลังกินอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง

“สำหรับปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนมีความสุข เดินทางปลอดภัย เหล้าไม่ได้ช่วยให้สนุกขึ้น แต่อยู่ที่ว่าเราเองจะทำอย่างไรให้คนอื่นมีความสุขแล้วตัวเราก็จะมีความสุขด้วย สุขนี้ได้จากมีสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี ขอให้ทุกคนอย่าลืมตรวจสุขภาพและดูแลสุขภาพให้ดี รู้จักการมอบความสุขให้คนอื่น แล้วตนเองก็จะได้รับความสุขกลับมา ความสุขหาซื้อไม่ได้แต่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้”อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวปิดท้าย

กลุ่มเผยแพร่ สำนักงานเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค

โทรศัพท์:0-2590-3862 / โทรสาร: 0-2590-3386

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ