นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง รักษาการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เปิดเผยว่า ทอท.ได้สรุปผลการดำเนินงานด้านการให้บริการในปี 2555 (มกราคม 2555 — ธันวาคม 2555) ที่เพิ่งผ่านพ้นไป จากข้อมูลเบื้องต้น ปริมาณจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท.คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) มีผู้โดยสารรวมประมาณ 74,261,000 คน เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 11.9 เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 46,012,000 คน ผู้โดยสารภายในประเทศ 28,249,000 คน สำหรับเที่ยวบินมีจำนวนรวมประมาณ 496,749 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 10.5 เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 275,422 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 221,327 เที่ยวบิน ซึ่งในภาพรวมปริมาณการจราจรทางอากาศส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารของ ทสภ.ที่มีจำนวนถึง 51,462,000 คน และเที่ยวบิน 312,493 เที่ยวบิน รองลงมาคือ ทภก.มี 9,446,000 คน และมีเที่ยวบินใช้บริการประมาณ 60,457 เที่ยวบิน
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความคืบหน้าการพัฒนา ทสภ.ระยะที่ 2 ซึ่งดำเนินโครงการพัฒนาปีงบประมาณ 2554-2560 นั้นในเดือนมิถุนายน 2555 ทอท.ได้จ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการฯ ได้แก่ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา EPM Consortium โดยที่ปรึกษาได้จัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคาของงานออกแบบ และคาดว่าจะประกวดราคาได้ผู้ออกแบบภายในเดือนเมษายน 2556 จากนั้นจะใช้เวลา 10 เดือน ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2556 ถึงกุมภาพันธ์ 2557 เพื่องานออกแบบงาน 3 กลุ่มงาน ได้แก่ 1) งานออกแบบกลุ่มงานอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 ซึ่งประกอบด้วย งานออกแบบอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 งานออกแบบลานจอดอากาศยานประชิดอาคาร และงานออกแบบและก่อสร้างส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้และระบบขนส่งผู้โดยสาร 2) กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร ซึ่งประกอบด้วย งานออกแบบส่วนขยายอาคารผู้โดยสารไปทางด้านทิศตะวันออก และงานออกแบบก่อสร้างอาคารสำนักงานและอาคารจอดรถ และ 3) กลุ่มงานออกแบบระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และหลังจากนั้น ภายในปี 2557 จะเป็นการจัดทำข้อกำหนดจัดจ้างผู้ก่อสร้างและผู้ควบคุมงาน ซึ่งตามแผนงานจะได้ผู้ก่อสร้างและผู้ควบคุมงานในเดือนสิงหาคม 2557สำหรับโครงการพัฒนา ทภก.ระหว่างปี 2553 — 2557 ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคน เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี ในปี 2555 ที่ผ่านมา ทอท.ได้เริ่มดำเนินงานก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์และลานเอนกประสงค์ อาคารสำนักงาน อาคารสำนักงานส่วนบำรุงรักษาและคลัง ทภก.รวมถึงงานก่อสร้างอาคารบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น (GSE) และอาคาร Operation & Maintenance (O&M) และงานก่อสร้างคลังสินค้า สำหรับปี 2556 จะเริ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทางด้านการพัฒนา ทดม. ในปี 2556 ทอท.มีแผนที่จะปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 อาคารเทียบเครื่องบิน 5 อาคารที่จอดรถยนต์ 7 ชั้น รวมทั้งปรับปรุงระบบสื่อสารและระบบสาธารณูปโภค ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้เป็น 27.5 ล้านคนต่อปีจนถึงปี 2570
สำหรับการปรับปรุงการให้บริการท่าอากาศยานในปี 2555 ทอท.ได้ดำเนินการในด้านต่างๆ โดยที่ ทสภ.ได้ดำเนินการปรับปรุงห้องสุขาภายในอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน ทสภ. การประสานงานกับ ตม.เพื่อเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ ตม. และติดตั้งเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัติโนมัติ ซึ่งได้ช่วยลดระยะเวลาในการตรวจหนังสือเดินทางจากเดิม 45 วินาทีต่อคนให้เหลือเพียง 20 วินาที รวมทั้งได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาออก สำหรับในปี 2556 ทอท.มีแผนที่จะย้ายเคาน์เตอร์ขายบัตรโดยสารทั้งหมดที่ ทสภ.ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 6 ของอาคารผู้โดยสาร และจะปรับปรุงพื้นที่ปัจจุบันในส่วนของผู้โดยสารขาออกดูโล่ง โปร่งตา และมีพื้นที่ให้บริการผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 1,000 ตารางเมตร ซึ่งจะให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ทอท.ยังให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเสียงจากการดำเนินงานของ ทสภ. ซึ่ง ทอท.ได้ชดเชยค่าเสียหายจากผลกระทบด้านเสียง โดยในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทางเสียงที่อาศัยในพื้นที่ NEF มากกว่า 40 ที่ก่อสร้างก่อนปี 2544 ปัจจุบัน ทอท.ได้ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแล้ว 163 อาคาร และจ่ายเงินปรับปรุงอาคารเพื่อลดผลกระทบด้านเสียงไปแล้ว 416 อาคาร สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ NEF 30-40 ทอท.ได้จ่ายเงินค่าปรับปรุงอาคารแล้ว 13,129 อาคาร นอกจากนั้น ยังได้จ่ายค่าชดเชยเพื่อปรับปรุงสถานที่อ่อนไหวต่อผลกระทบด้านเสียง ได้แก่ สถานศึกษา สถานพยาบาล และศาสนสถาน รวมแล้ว 21 แห่ง
ซึ่งรวมเงินชดเชยผลกระทบทางเสียงที่ ทอท.จ่ายแล้วรวมทั้งสิ้น 3,901,982,722.96 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 17 ธันวาคม 2555)
นายสมชัย กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของประเทศไทยในปี 2558 ซึ่งประเทศไทยได้รับบทบาทให้เป็นผู้ประสานงานหลักสาขาท่องเที่ยวและการบินนั้น จะทำให้เกิดการแข่งขัน และมีการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ และจะมีการเปิดน่านฟ้าเสรี และจัดตั้งตลาดการบินร่วม ดังนั้น ทอท.ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ได้เร่งรัดการปฏิรูปการบริหาร การจัดการองค์กร และพัฒนาการบริการเพื่อให้ท่าอากาศยานของ ทอท.สามารถรองรับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
สำนักสื่อสารองค์กร
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0 2535 4097, 0 2535 1424
โทรสาร 0 2535 4099
อีเมล [email protected]