การถ่ายทำฉากอวสานนี้ทางผู้กำกับตัวเล็กฝีมือโต “เฉิด ภักดีวิจิตร” ลูกไม้หล่นใต้ต้นของ “ฉลอง ภักดีวิจิตร” ได้ยกกองไปปักหลักถ่ายทำที่สวนสัตว์ปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี เพราะในเรื่องได้สมมุติให้สถานที่แห่งนี้เป็นสวนสัตว์ชื่อ “Goody Zoo” ฉากนี้เป็นฉากที่ไทได้ตัดสินใจกลับมาทำงานที่สวนสัตว์แห่งนี้อีกครั้ง เพราะพัดผู้หญิงจิตใจงามยอมปล่อยตัวไทให้เป็นอิสระ เพราะเธอรู้ว่าไทไม่ได้รักเธอเลย และไทก็ไม่ได้มีความสุขในขณะที่ต้องดูแลเธอเลย แต่ต้องตามทำหน้าที่เพื่อเป็นการไถ่โทษมากกว่า เมื่อเป็นอิสระแล้วไทจึงขอกลับมาทำงานที่สวนสัตว์ และเขาก็ได้พบกับปลายฟ้าผู้หญิงที่เขาเฝ้ารอ ได้กลับมาทำงานที่นี่เช่นกัน จึงทำให้ความรักของทั้งสองกลับมาสมหวังดั่งตั้งใจ
บริเวณที่ผู้กำกับเลือกถ่ายทำฉากอวสานนั้นคือ บริเวณที่เลี้ยงนกฟลามิงโกแบบเปิด ซึ่งนกสามารถเดินและบินไปมาได้อย่างสบาย แต่เวลาที่ถ่ายทำกลับไม่สบายซักเท่าไหร่ เพราะนักแสดงนกทั้งหลายไม่ยอมมาเข้ากล้องด้วยซะงั้น จะค่อยบินหนีและเดินไปทางอื่นตลอด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในการถ่ายทำ เพราะคนที่มีหน้าที่ดูแลนกของทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียว มีวิธีที่จะเรียกนกมาเข้ากล้องได้อย่างง่ายดายด้วยการเป่านกหวีด หลังจากนั้นนกก็จะบินมารวมตัวกันในจุดที่ผู้กำกับต้องการ เพราะถ้านกได้ยินเสียงนกหวีดเมื่อไหร่ ก็จะรู้ว่าตัวเองจะได้กินอาหารโดยไม่ต้องไปคุ้ยเขี่ยแต่อย่างใด กว่าจะถ่ายทำฉากรักหวานๆของ ซี-ศิวัฒน์ กับ แนท-ณํชชา เสร็จ นกก็มีเกเรบ้างเพราะท้องมันเริ่มอิ่มจนจุกนั่นเอง
ส่วนหนุ่มซีกับสาวแนทกว่าจะผ่านฉากรักหวานๆ ในตอนอวสานไปได้ ก็ต้องทำเอาเหนื่อยไปเหมือนกัน เพราะต้องเดินขึ้นเดินลงเนินสวนนกอยู่หลายรอบ ท่ามกลางอากาศที่ค่อนข้างร้อนพอสมควร เพราะทางผู้กำกับได้ถ่ายทำเอาไว้หลายมุม เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามที่สุดและประทับใจที่สุด ซึ่งท่านผู้ชมคงได้เห็นกันไปแล้วว่า ภาพของละครเรื่องนี้สวยงามมากๆ ซึ่งจะไม่เคยเห็นในละครเรื่องอื่นมาก่อน ติดตามชมฉากรักหวานตอนอวสานของ ซี-ศิวัฒนื และ แนท-ณัฐชา ได้ในละครเรื่อง “ดุจตะวัน ดั่งภูผา” คืนวันอังคารที่ 8 มกราคม นี้ หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 7 สี