บตท.นั้นทำหน้าที่เพื่อเชื่อมโยงตลาดเงินตลาดทุน จึงไม่ได้ทำให้ลูกหนี้ขาดจากการเป็นลูกค้า ของ ธนาคารในตลาดแรก ลูกค้าสินเชื่อยังคงเป็นลูกค้าของธนาคารนั้นๆตลอดเวลาที่ธนาคารพาณิชย์นั้นๆ ยังทำหน้าที่ให้บริการ นอกจากนั้นยังเท่ากับเป็นการการันตี หรือรับรองด้วยว่า ลูกหนี้ดังกล่าวที่ได้รับการคัดเลือกนั้นเป็นหนี้ชั้นดีจริงๆ หากตราสารประเภท MBS: Mortgage Backed securitized หรือ ABS: Asset Backed Securitized มีปริมาณมากขึ้น ประโยชน์ที่ลูกหนี้เหล่านี้จะได้รับย่อมมีมากขึ้นด้วย เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเหมาะสมและความเสี่ยงต่ำถ้ามีผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจ ความน่าเชื่อถือด้านเครดิต และสิทธิพิเศษอื่นๆ
ลูกค้าสินเชื่อที่ธนาคารพาณิชย์ขายแก่ บตท.จะอยู่ใน Portfolio ของ บตท.นานเท่าไหร่นั้นพิจารณาจากคุณภาพสินเชื่อที่มีประวัติการชำระหนี้เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งในการคัดเลือกลูกหนี้ ดังนั้น หากเป็นลูกค้าที่ใช้สินเชื่อใหม่ บตท.จำเป็นต้องถือครองไว้ระยะหนึ่งเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเป็นลูกหนี้ดี ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ หกเดือนถึง สองปี แล้วแต่กรณี แต่ถ้าหากลูกค้าใช้สินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์นั้นมาเป็นระยะเวลาพอสมควรมี Historical Data มาแล้ว อาจจะปี หรือ สองปี ธนาคารพาณิชย์นั้นก็สามารถโอนขายเพื่อ บตท.นำมารวมออกตราสาร MBS: Mortgage Backed Securitized ได้ทันที และยังคงย้ำว่าลูกค้าเหล่านี้ยังคงมีสถานะเป็นลูกค้าของธนาคารพาณิชย์นั้นๆ เพียงแต่เจ้าหนี้ของลูกหนี้เรานั้นคือประชาชนที่ลงทุนตรงกับลูกหนี้ ผ่าน SPV แตกต่างจาก ธนาคารพาณิชย์ด้วยการลงทุนทางอ้อมผ่านการฝากเงิน
ผลสำเร็จของการออกตราสาร MBS: Mortgage Backed Securitized เป็นที่ทราบอยู่เป็นระยะว่า บตท.ออกตราสาร MBS: Mortgage Backed Securitized เมื่อปลายปี 2555 นั้น ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยออกตราสารหนี้ MBS มูลค่า หนึ่งพันล้านบาท บตท.จำหน่ายแก่ลูกค้าประเภทสถาบันการเงิน ทั้งจำนวนสำหรับ ตราสาร MBS: SPV 4 ครบกำหนดไถ่ถอนไปเมื่อ 29 ธันวาคม 2555 นับว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี เป็นลูกหนี้ชั้นดีทั้งหมด ตั้งแต่วันที่นำมาหนุนหลังตราสารจนถึงวันไถ่ถอน ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพคัดกองลูกหนี้ของ บตท.
สำหรับปี 2556 บตท.มีแผนที่จะออกตราสารระยะยาวที่พัฒนาขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยจะนำออกในลักษณะ Public Offering ขายแก่ประชาชนโดยทั่วไปประมาณ สองกอง และ ประเภท PP: Private Placement อีกหนึ่งกองวงเงินประมาณ 12,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร บตท.ในการพัฒนาตราสารและการระดมทุนของประเทศ ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ทุกภาคส่วน อาทิ การออกตราสารเพื่อขายให้กับประชาชนทั้วไปนั้นจะทำให้ประชาชนสามารถเป็นผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะยาวสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้โดยผ่านการลงทุน ABS/MBS ด้านภาคตลาดทุนนั้นนับว่า ABS/MBS เป็นนวัตกรรมด้านตลาดทุน และเป็นการเปิดตลาด Securitization เพื่อเป็นทางเลือกสู่นักลงทุนไทย ตลอดจนทำให้ประเทศชาติมีพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสามารถนำเครื่องมือ Securitization ระดมทุนเพื่อสร้างการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์มากที่สุด
ติดต่อ:
บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) — งานประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2618-9933 ต่อ 117
E-mail : [email protected]