ฟรอสต์ฯ แนะทางรอดธุรกิจไทย จากปัจจัยการขึ้นค่าแรง

พุธ ๐๙ มกราคม ๒๐๑๓ ๑๔:๐๓
ฟรอสต์ฯ แนะ ธุรกิจไทย สร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจ รองรับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อาทิ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท การเปิด AEC ปัญหาขาดแคลนแรงงานปัญหายืดเยื้อยุโรปที่กระทบส่งออก

ดร. มนธ์สินี กีรติไกรนนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก เผยถึง 6 แนวทางหลัก เพื่อใช้ในการเตรียมความพร้อมสำหรับธุรกิจไทย ในยุค 3G ดังนี้

1. Technology Adoptionการนำเทคโนโลยีมาใช้โดยลงทุนหรือเช่าซื้อระบบการทำงานและควบคุมให้เป็นไปแบบอัตโนมัติและปราศจาก human error

ปัจจุบันมีการใช้งานด้านไอทีในธุรกิจ SMEไทยอยู่ไม่ถึง 10% ในขณะที่ธุรกิจรายย่อยในมาเลเซียมีการใช้ไอทีกว่า 30% และในสิงคโปร์กว่า 50% ฉะนั้นผู้ประกอบการไทยควรเปิดใจเรื่องเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ปัจจุบัน มีคู่ค้ามากมายที่พร้อมจะอบรมและให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและมีโมเดลทางธุรกิจหลากหลายให้เลือกเช่น Turnkey, Leasing, ManagedServiceขึ้นอยู่กับงบประมาณและการจัดสรรเงินลงทุน

2. Effective Logisticsปัจจุบันต้นทุนเฉลี่ยด้านโลจิสติกส์ของธุรกิจไทยอยู่ประมาณ 15-18% ของต้นทุนทั้งหมดขณะที่มาเลเซียอยู่ที่ไม่เกิน 12% และสิงคโปร์อยู่ที่ไม่เกิน 8%

กระบวนการด้านโลจิสติกส์ไม่ได้มีแค่การขนส่งแต่รวมถึงต้นทุนการจัดการ supply chain เริ่มตั้งแต่การบริหารวัตถุดิบให้เป็นไปตามความต้องการ (demand-based production planning) เพื่อทำให้การเก็บของในคลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงการจัดการสินค้าคงคลังโดยประเมินค่าใช้จ่ายต่อพื้นที่ตรม. ว่าเยอะกว่าทั่วไปหรือไม่ลองศึกษาแนวทางการพัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้าและการกระจายสินค้า และประเมินแนวทางการ outsource ให้ logistic service providers (LSPs) ซึ่งมีอยู่มากมายซึ่งอาจบริหารได้ดีกว่าการทำเอง อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้สะดวกและดีกว่า

3. Core Business Focusการดำเนินธุรกิจอาจมีหลายส่วนที่ไม่ใช่โฟกัสในธุรกิจเราแต่เราต้องทำเช่นงานบริหารบุคคลบัญชีการเงินไอทีฯลฯลองประเมินดูว่างานเหล่านี้มันกินทรัพยากรของคุณไปขนาดไหนทั้งด้านต้นทุนเวลาและจำนวนคนถ้าเป็นไปได้พยายามทำให้ธุรกิจ “Lean” ให้มากที่สุดแปลว่าบางเบาคล่องตัวฉับไวอยู่เสมอและใช้ทรัพยากรที่มีให้โฟกัสในเรื่องการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการหรือสร้าง Core Competency ให้เหนือคู่แข่งและ outsource ส่วนที่ไม่ใช่ core ออกไปให้ผู้เชี่ยวชาญดูแล

4. Cost Allocationการจัดการบุคคลากรต้องมีประสิทธิภาพโดยการแบ่งสรรต้นทุนพนักงานเข้าไปยังแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานนั้นๆต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าทุกรายหัวที่ถูกจัดสรรไปสามารถเพิ่มประสิทธิผลของหน่วยงานนั้นๆโดยออกมาเป็นรูปแบบเนื้องานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือรายได้ที่เพิ่มขึ้นถ้าไม่ทำเช่นนั้นการวัดผลจะไม่ชัดเจนทำให้ไม่รู้ว่าจำนวนคนที่มีอยู่ในบริษัทมีจำนวนมากไปหรือน้อยไปหรือไม่การทำ cost และ resource allocation ต้องมีเรื่องการทำเป้าผลงานและ KPI พ่วงไปด้วยจึงจะเกิดผลสูงสุด

5. Market Expansionการหาตลาดใหม่ซึ่งการขยายฐานลูกค้ามี 3 ทางคือ

(1) ลูกค้าเดิมและมัดใจโดยวิธีการบริการและหาสินค้าไลน์ใหม่ๆมาขายให้ลูกค้า

(2) ลูกค้าของคู่แข่งโดยการเจาะตลาดคู่แข่งทำได้โดยการเข้าหาลูกค้าคู่แข่งแล้วดูว่าเขาพอใจกับเจ้าปัจจุบันหรือไม่ยังมีอะไรที่เราสามารถแทรกเข้าไปได้ค่อยๆเข้าไปแล้วทำให้เขาประทับใจกับจุดแข็งของเรา

(3) ฐานลูกค้าใหม่ๆลองหาโอกาสของ application ใหม่ๆที่สินค้าเราสามารถทดแทนสินค้าประเภทอื่นเช่นวัสดุ PE ทดแทนเหล็กเป็นต้นหรืออาจเป็นการเข้าตลาดใหม่เช่นอาเซียนแต่ก่อนอื่นต้องเข้าใจ value chain ของตลาดนั้นๆแล้วมาวิเคราะห์ว่าเราจะอยู่ตรงไหนและต้องติดต่อกับใครการเข้าใจ value chain ทำให้เราเห็นภาพโดยรวมและสามารถกำหนดแผนงานในอนาคตได้

6. Relocationการย้ายฐานเพื่อเข้าถึงแหล่งแรงงานราคาถูกเป็นคำตอบสุดท้ายหากทั้งหมดที่แนะนำไปไม่สามารถตอบโจทย์ได้ที่ไว้เป็นอันดับท้ายสุดเพราะแนวทางนี้มีความเสี่ยงจริงอยู่ประเทศเพื่อนบ้านค่าแรงอาจจะถูกกว่าไทยแต่ความเสี่ยงเรื่องอื่นเช่นนโยบายและกฏหมายบางตัวอาจเป็นผลเสียต่อธุรกิจได้ยกตัวอย่างธุรกิจไทยรายหนึ่งเข้าไปเปิดโรงงานในเวียดนามแต่กลับถูกฟ้องกว่าหลายร้อยล้านบาทจากทางหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของที่นั่นหรือการเปิดโรงงานในพม่าซึ่งมีความซับซ้อนเรื่องกฏหมายการครองที่ดินแถมที่ดินยังมีราคาแพงยิ่งร้ายกว่านั้นโรงงานที่ต้องมีการดำเนินเครื่องจักรอยู่ตลอดเวลาอาจประสบปัญหาการผลิตหยุดชะงักเพราะไฟตกฉะนั้นต้องใคร่ครวญโดยการทำ ROI (Return on Investment) และ ERA (Enterprise Risk Assessment) หรือประเมินความเสี่ยงให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะย้ายณ.ตอนนี้ธุรกิจไทยบางส่วนได้มีการย้ายที่ตั้งไปเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะธุรกิจสิ่งทอและเซรามิคโดยฐานที่ใหม่ยอดฮิตคือประเทศลาวและกัมพูชารองลงมาคือพม่าและเวียดนาม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version