6 องค์กรใหญ่ผนึกกำลังส่งเสริมนวัตกรรมระดับชาติ

ศุกร์ ๑๘ มกราคม ๒๐๑๓ ๑๕:๑๖
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีลงนาม “โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ” ระหว่าง 6 องค์กรใหญ่ของประเทศ ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาด้านนวัตกรรมของชาติ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs มีช่องทางและตลาดทดลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อต่อยอดผลงานไปสู่นวัตกรรมระดับประเทศ ด้วยการประกาศจัดประกวดรางวัลนวัตกรรม “สุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Awards” ชิงเงินรางวัล 1.2 ล้านบาท

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวในงานการลงนาม “โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ” ว่า สำหรับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีนโยบายในการผลักดันและสนับสนุนให้มีการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพราะวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมจะเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันประเทศไทยมีงานวิจัย องค์ความรู้ และสิ่งประดิษฐ์จำนวนมากที่มีศักยภาพ เป็นของดี แต่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ เนื่องจากขาดการต่อยอดหรือขยายผลไปสู่ผลงานเชิงนวัตกรรม โดยส่วนตัวมีความเชื่อมั่นในศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย เพราะคนไทยเป็นคนเก่ง มีความสามารถ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ แต่นวัตกรรมที่เรียกว่าสำเร็จ ไม่ใช่เพียงมีความเป็นไปได้ทางเทคนิคเท่านั้น หากแต่นวัตกรรมที่ทำมาจะต้องเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม ผู้บริโภค และตลาดได้ ดังนั้น หากมีการสนับสนุนให้เกิดการต่อยอด หรือขยายผลงานไปสู่การใช้ประโยชน์จริงนั้น จะมีส่วนช่วยในการยกระดับประเทศเป็นอย่างมาก

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับสภาอุตสาหกรรมฯ เป็นองค์กรเอกชนที่มีหน้าที่ในการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และสมาชิกเกินกว่าร้อยละ 60 เป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทั้งองค์ความรู้ การตลาด เงินทุน รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม เนื่องจาก SMEs จำนวนไม่น้อยที่ประสบกับปัญหาและความท้าทายกับการแข่งขันในตลาดที่มีคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่า และในขณะเดียวกันการมีต้นทุนที่สูงขึ้นจากผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง 300 บาท ทำให้ SMEs จำเป็นต้องปรับปรุงและพัฒนาตนเองให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยการเร่งสร้างความแตกต่างด้วยการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจ จากปัญหาดังกล่าว สภาอุตสาหกรรมฯ จึงได้พยายามเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ SMEs โดยคาดหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นอีกแนวทางหนึ่ง ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มศักยภาพขององค์กรให้สามารถพัฒนาสินค้าและบริการให้แปลกใหม่ ทันสมัยและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางด้านการตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า รวมไปถึงสามารถแข่งขันกับคู่แข่ง ทั้งในประเทศ ระดับอาเซียน และระดับโลกได้

ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนสนับสนุนโครงการในครั้งนี้ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่จะร่วมกันพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความพร้อมที่จะก้าวสู่ความสำเร็จ โดยเฉพาะการมีความรู้ความเข้าใจในการบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและการใช้ประโยชน์จากตลาดทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ และเมื่อธุรกิจเติบโตถึงจุดที่ต้องการขยายกิจการอย่างก้าวกระโดด ตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) พร้อมที่จะเป็นกลไกช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน ตลอดจนการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในอนาคต และสามารถแข่งขันได้ในตลาดสากล ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนกลไกในระบบเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและมั่นคงต่อไป

ส่วน ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) กล่าวว่า มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม อาทิ การบูรณาการ การสร้างเครือข่ายความรู้และนวัตกรรม มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากผลงานวิจัย และทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น สวทน. จึงมีรูปแบบความร่วมมือในด้านวิชาการ การให้คำแนะนำ การเชื่อมโยงเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ สถาบันวิจัย เพื่อช่วยเหลือภาคเอกชน ในการพัฒนาเทคโนโลยี การพัฒนารูปแบบธุรกิจ เพื่อให้การสร้างนวัตกรรมประสบผลสำเร็จ ตรงกับความต้องการของตลาดมากที่สุด

“สำหรับโครงการความร่วมมือนี้ เอกชนที่เข้าร่วมโครงการ สามารถใช้ประโยชน์จากการศึกษา จากเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำและยกระดับผลิตภัณฑ์ กระบวนการที่เอกชนพัฒนาขึ้น หรือที่สถาบันการศึกษาพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยและนักวิจัยจะได้รับประโยชน์จากความรู้และประสบการณ์ของ สวทน. ในการศึกษาเชิงนโยบายและโครงการนำร่องในด้านโครงสร้างพื้นฐาน และปัจจัยเอื้อ อาทิ การเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะธุรกิจ และการเข้าร่วมโครงการนำร่องในการพัฒนาระบบให้คำปรึกษาธุรกิจ เป็นต้น”

ด้าน ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตระหนักถึงความสำคัญของการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีการค้าโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการผลิตและการค้า โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของภาคเอกชนไทย อันเป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย โดยสนับสนุนให้มีการสร้างทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทยและใช้ภูมิปัญญาในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ ให้เป็นที่ต้องการแก่ผู้บริโภค ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทั้งภาครัฐและเอกชนในการร่วมกันทำงานวิจัยและส่งเสริมให้นำผลงานวิจัยไปสู่การพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง ซึ่งเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันการวิจัยและพัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรม ผลงานวิจัย และสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

ทั้งนี้ ดร.พรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า โครงการที่ ซีพี ออลล์ ได้ริเริ่มจัดทำขึ้นมานี้ ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยสนับสนุน ส่งเสริม และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยหันมาสนใจทำโครงการนวัตกรรมกันมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีโอกาสที่จะผลักดันให้เข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก สนช. ผ่านโครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน” และ“นวัตกรรมดี...ไม่มีดอกเบี้ย” ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการนำผลงานวิจัยที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศไทยมาพัฒนาต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์เพิ่มมากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย จึงนับว่า “นวัตกรรม” เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากภาครัฐสู่เอกชน เกิดการขับเคลื่อนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีในประเทศสู่ภาคการผลิตและบริการ ซึ่งทำให้ลดการพึ่งพาการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศได้อย่างมหาศาลในอนาคต

ขณะที่นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย เปิดเผยว่า ซีพี ออลล์ ในฐานะที่เป็นผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกที่มีจำนวนกว่า 6,800 สาขาทั่วประเทศ และมีลูกค้าใช้บริการเรามากกว่าวันละ 8 ล้านคน มีบริษัทในกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย จึงยินดีที่จะเป็นช่องทางจัดจำหน่ายเพื่อทดสอบตลาดของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านความร่วมมือของโครงการนี้ ทั้งยังได้จัดตั้ง “ศูนย์นวัตกรรมกลุ่มธุรกิจ ซีพี ออลล์” ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ระหว่างกลุ่มธุรกิจ ซีพี ออลล์ กับหน่วยงานภายนอก รวมถึงยังเป็นช่องทางเชื่อมโยงและประสานงานในความร่วมมือสำหรับต่อยอดผลงานนวัตกรรมไปสู่ระดับประเทศอีกด้วย

“บริษัทฯ มีความยินดีที่จะสนับสนุนการประกวดและเงินรางวัลสำหรับผลงานนวัตกรรมที่สืบเนื่องจากโครงการนี้ โดยจะจัดให้มีการประกวดรางวัล 7 Innovation Awards ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมผลงานนวัตกรรมด้านธุรกิจและด้านสังคมที่สามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่ระดับประเทศต่อไป” นายก่อศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

ศิวพร แสนเสนา (โม)

ฝ่ายประชาสัมพันธ์

0-2345-1017

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO