เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2556 ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เดินทางมาเป็นประธานในพิธีการแถลงข่าวเปิดโครงการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ผ่าน SMS หมายเลข 191 โดยไม่คิดค่าบริการ เพื่อเพิ่มช่องทางแจ้งเหตุร้ายให้แก่ประชาชน เนื่องจากปัจจุบันปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และทวีความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมา กอร์ปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลทุกข์สุขของประชาชน และยังไม่สามารถควบคุมปริมาณการเกิดอาชญากรรมได้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ จึงจำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือหรือการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งปัจจุบันได้รับความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลข่าวสารน้อยมาก เนื่องจากช่องทางในการติดต่อสื่อสารยังมีไม่เพียงพอ ทำให้ขาดข้อมูลโดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคนร้าย การจดจำตำหนิรูปพรรณของบุคคลต้องสงสัย หรือยานพาหนะ เพื่อเป็นการชี้ช่องทางนำไปสู่เบาะแสของการจับกุมในที่สุด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) มีเป้าหมายสำคัญในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงร่วมมือกันดำเนินการจัดทำโครงการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ผ่าน SMS หมายเลข 191 โดยไม่คิดค่าบริการ เพื่อเป็นการขยายช่องทางการรับแจ้งเหตุ ให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และสอดคล้องกับพฤติกรรมการสื่อสารของประชาชนในปัจจุบัน โดยผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารของผู้ประกอบการธุรกิจเครือข่ายระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5 บริษัทใหญ่ในประเทศไทย คือ
1. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS
2. บริษัทโทเทิ่ล แอ๊คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC
3. บริษัท ทรูมูฟ จำกัด หรือ True Move
4. บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT
5. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT
โดยเมื่อประชาชนประสบเหตุด่วนเหตุร้าย สามารถแจ้งเหตุ พร้อมระบุสถานที่เกิดให้ชัดเจน แล้วส่ง SMS ไปที่หมายเลข 191 ทันที เมื่อข้อมูลถูกส่งไปยังฐานข้อมูล SMS 191 เจ้าหน้าที่รับเหตุของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำการวิเคราะห์ และแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 หรือสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้เคียง ออกไปทำหน้าที่ระงับเหตุและให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันประชาชนมีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วันนี้ประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วกว่า 78 ล้านเลขหมาย ทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตและเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่เคียงข้างตลอดเวลา ด้วยความสำคัญนี้ กสทช. จึงมุ่งมั่นทำโครงการฯ ดังกล่าว เพื่อบริการแก่ประชาชน โดยความร่วมมือจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ราย และ กสทช. ยังได้มอบทุนสนับสนุนโครงการจำนวน 500,000 บาท เพื่อใช้ในการเตรียมความพร้อมสำหรับระบบที่จะใช้รองรับการให้บริการประชาชน โดยกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ม.ค. 2556 นี้
นายฐากร ตัณฐสิทธ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า SMS 191 เป็นการต่อยอดการทำงานของสายด่วนแจ้งเหตุร้าย 191 ที่เดิมมีเพียงบริการทางโทรศัพท์ แต่ SMS 191 จะเป็นบริการใหม่ แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายทั่วประเทศ ผ่านระบบ SMS ฟรี เพื่อบริการประชาชน โดย กสทช. ในฐานะหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ยังได้ประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 เครือข่าย โดยร่วมมือกันสนับสนุนสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับคนไทย
ทั้งนี้ การดำเนินการ โครงการฯ ดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชน ได้ตระหนักถึงหน้าที่ของพลเมืองที่ดี มีความเข้าใจต่อปัญหาอาชญากรรม และเข้ามามีส่วนร่วมในงานป้องกันอาชญากรรมของตำรวจ ร่วมเฝ้าระวัง ดูแล แก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง และสังคมส่วนรวม ตลอดจนมีการนำเสนอแนวคิดการทำงาน ในลักษณะ ร่วมแรงร่วมใจแก้ไขปัญหา อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างทักษะในการสังเกต จดจำ ตำหนิรูปพรรณคนร้าย ยานพาหนะ และสิ่งแวดล้อมรอบตัว หรือพื้นที่เสี่ยง ที่เป็นแหล่งมั่วสุมต่างๆ แล้วแจ้งเบาะแส เหตุด่วนเหตุร้าย ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านข้อความ SMS 191 เพื่อให้ปัญหาภัยอาชญากรรม และภัยสังคมอื่นๆ ในชุมชนและสังคมลดน้อยลง ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และมีความเป็นอยู่ที่ดี