มร.ทานาดะ กล่าวว่า “ยอดขายรถยนต์ในปี 2555 ได้สร้างสถิติใหม่ของยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยยอดขาย 1,436,335 คัน สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ยอดขายรถยนต์ของไทย ทั้งนี้ความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นมากในปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กระตุ้นการบริโภคภายในนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐในโครงการรถยนต์คันแรก และปริมาณความต้องการสะสมอันเป็นผลต่อเนื่องมาจากผลกระทบจากภัยธรรมชาติในปี 2554 ประกอบกับกำลังการผลิตรถยนต์ ในประเทศที่เพิ่มขึ้นทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีขึ้น
สถิติการขายรถยนต์ ในปี 2555
ยอดขายปี2555 เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี2554
- ปริมาณการขายรวม 1,436,335 คัน +80.9%
- รถยนต์นั่ง 672,460 คัน +86.6%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 763,875 คัน +76.2%
- รถกระบะ1 ตัน(รวมรถกระบะดัดแปลง) 666,106 คัน +82.2%
- รถกระบะ1 ตัน(ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 592,725 คัน +81.0%
โดยโตโยต้ามียอดขาย 516,086 คัน เพิ่มขึ้น 77.9% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 224,816 คัน เพิ่มขึ้น 62.8%รถเพื่อการพาณิชย์ 291,270 คัน เพิ่มขึ้น 91.7% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 269,722 คัน เพิ่มขึ้น 99.8%
สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2555
- ปริมาณการขายโตโยต้า 516,086 คัน เพิ่มขึ้น 77.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
- รถยนต์นั่ง 224,816 คัน เพิ่มขึ้น 62.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 291,270 คัน เพิ่มขึ้น 91.7% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 269,722 คัน เพิ่มขึ้น 99.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.5%
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 233,393 คัน เพิ่มขึ้น 91.5% ส่วนแบ่งตลาด 39.4%
ด้านการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 405,892 คัน เพิ่มขึ้น 61.8% คิดเป็นมูลค่า 179,572 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 63,023 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออก ที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 242,595 ล้านบาท”
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ปี 2556 มร.ทานาดะ กล่าวว่า “แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2556 คาดว่าจะมียอดขายรวมทั้งหมด มากกว่า 1,200,000 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10%
ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2556
- ปริมาณการขายรวม >1,200,000 คัน ลดลง ~10.0%
- รถยนต์นั่ง 542,300 คัน ลดลง 19.4%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 707,700 คัน ลดลง 7.4%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 631,900 คัน ลดลง 5.1%
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 567,100 คัน ลดลง 4.3 %
โดยโตโยต้าตั้งเป้าหมายการขายสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 500,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 200,000 คัน ลดลง 11.0% รถเพื่อการพาณิชย์ 300,000 คัน เพิ่มขึ้น 3.0% และ รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 285,000 คัน เพิ่มขึ้น 5.6%
ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2556
- ปริมาณการขายรวม 500,000 คัน ลดลง 3.1% ส่วนแบ่งตลาด 40.0%
- รถยนต์นั่ง 200,000 คัน ลดลง 11.0% ส่วนแบ่งตลาด 36.9%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 300,000 คัน เพิ่มขึ้น 3.0% ส่วนแบ่งตลาด 42.4%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 285,000 คัน เพิ่มขึ้น 5.6% ส่วนแบ่งตลาด 45.1%
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 250,000 คัน เพิ่มขึ้น 7.1% ส่วนแบ่งตลาด 44.1%
สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 412,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 168,000 ล้านบาท และการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 70,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 238,000 ล้านบาท”
มร.ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปีนี้เป็นปีแรกของการก้าวเข้าสู่ 50 ปีต่อไปของโตโยต้าในประเทศไทย โตโยต้ามีแผนงานที่จะ “ขับเคลื่อนความสุข” หรือ Mobility of Happiness ให้กับลูกค้าและสังคมไทยควบคู่ไปกับการรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศเริ่มต้นด้วยการกลับมาผลิตอีกครั้งของโรงงาน โตโยต้า ออโต้ เวิคส (TAW) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเพื่อผลิตรถตู้ ไฮเอซ คอมมิวเตอร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตรถรุ่นนี้ในประเทศไทย และโรงงานเกตเวย์2 ที่พร้อมจะเริ่มการผลิตในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ในส่วนนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ในปีนี้คือ วีออส ใหม่ และ อีโคคาร์ รวมถึงระบบโตโยต้าสมาร์ท จี-บุ๊คแอพพลิเคชั่นอัจฉริยะ แบบ 3 มิติ ที่ให้ความชัดเจนแม่นยำมากยิ่งขึ้น และเพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายพร้อมการให้บริการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยจะเพิ่มจำนวนโชว์รูมโตโยต้าจากปัจจุบัน 357 แห่ง เป็น 400 แห่งรวมถึงโตโยต้า ชัวร์จาก 85 แห่งเป็น 100 แห่ง ภายในปีนี้”
“นอกจากนี้ยังคงมุ่งเน้นส่งเสริมสังคมอย่างต่อเนื่องโดยการสร้างคุณค่าใหม่ขององค์กรผ่านSocial Innovation หรือการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านการจัดการเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิผลให้แก่ชุมชนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โครงการ Smiling road ที่เป็นโครงการต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมารวมทั้งการส่งเสริมให้มี Eco showroom หรือโชว์รูมประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ให้มีจำนวนมากขึ้นทั้งหมดนี้เพื่อการอยู่ร่วมกันกับสังคมไทยอย่างมีความสุขตลอดไป” มร.ทานาดะกล่าวในที่สุด
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนธันวาคม 2555
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 144,676 คัน เพิ่มขึ้น 165.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 40,266 คัน เพิ่มขึ้น 172.1% ส่วนแบ่งตลาด 27.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 21,483 คัน เพิ่มขึ้น 160.7% ส่วนแบ่งตลาด 14.8%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 20,463 คัน เพิ่มขึ้น 831.0% ส่วนแบ่งตลาด 14.1%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 71,240 คัน เพิ่มขึ้น 175.8%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 18,765 คัน เพิ่มขึ้น 857.9% ส่วนแบ่งตลาด 26.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 16,974 คัน เพิ่มขึ้น 144.6% ส่วนแบ่งตลาด 23.8%
อันดับที่ 3 นิสสัน 12,344 คัน เพิ่มขึ้น 97.7% ส่วนแบ่งตลาด 17.3%
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 63,078 คัน เพิ่มขึ้น 199.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 21,581 คัน เพิ่มขึ้น 251.8% ส่วนแบ่งตลาด 34.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 19,522 คัน เพิ่มขึ้น 160.1% ส่วนแบ่งตลาด 30.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 8,383 คัน เพิ่มขึ้น 72.7% ส่วนแบ่งตลาด 13.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 6,981 คัน
โตโยต้า 3,105 คัน - มิตซูบิชิ 2,050 คัน - เชฟโรเลต 890 คัน — อีซูซุ 889 คัน - ฟอร์ด 47 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 56,097 คัน เพิ่มขึ้น 198.0%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 18,633 คัน เพิ่มขึ้น 151.0% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 18,476 คัน เพิ่มขึ้น 266.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 6,333 คัน เพิ่มขึ้น 65.3% ส่วนแบ่งตลาด 11.3%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 73,436 คัน เพิ่มขึ้น 155.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 23,292 คัน เพิ่มขึ้น 196.4% ส่วนแบ่งตลาด 31.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 21,483 คัน เพิ่มขึ้น 160.7% ส่วนแบ่งตลาด 29.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 8,383 คัน เพิ่มขึ้น 72.7% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม — ธันวาคม 2555
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 1,436,335 คัน เพิ่มขึ้น 80.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 516,086 คัน เพิ่มขึ้น 77.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 213,380 คัน เพิ่มขึ้น 61.4% ส่วนแบ่งตลาด 14.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 171,208 คัน เพิ่มขึ้น 103.9% ส่วนแบ่งตลาด 11.9%
2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 672,460 คัน เพิ่มขึ้น 86.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 224,816 คัน เพิ่มขึ้น 62.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 163,442 คัน เพิ่มขึ้น 109.7% ส่วนแบ่งตลาด 24.3%
อันดับที่ 3 นิสสัน 103,504 คัน เพิ่มขึ้น 116.4% ส่วนแบ่งตลาด 15.4%
3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 666,106 คัน เพิ่มขึ้น 82.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 269,722 คัน เพิ่มขึ้น 99.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 194,736 คัน เพิ่มขึ้น 61.8% ส่วนแบ่งตลาด 29.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 87,033 คัน เพิ่มขึ้น 49.6% ส่วนแบ่งตลาด 13.1%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 73,381 คัน
โตโยต้า 36,329 คัน - มิตซูบิชิ 26,021 คัน — เชฟโรเลต 5,495 คัน - อีซูซุ 5,091 คัน - ฟอร์ด 445 คัน
4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 592,725 คัน เพิ่มขึ้น 81.0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 233,393 คัน เพิ่มขึ้น 91.5% ส่วนแบ่งตลาด 39.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 189,645 คัน เพิ่มขึ้น 66.6% ส่วนแบ่งตลาด 32.0%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 61,012 คัน เพิ่มขึ้น 50.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.3%
5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 763,875 คัน เพิ่มขึ้น 76.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 291,270 คัน เพิ่มขึ้น 91.7% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 213,380 คัน เพิ่มขึ้น 61.4% ส่วนแบ่งตลาด 27.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 87,033 คัน เพิ่มขึ้น 49.6% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%