“บีเอ็นที” ผนึก “ทราฟฟิกคอร์นเนอร์” เปิดแนวรุกสื่อวิทยุ ตั้งเป้าขึ้นแท่น Radio Operator รายแรกในไทยเต็มรูปแบบ

ศุกร์ ๑๖ กันยายน ๒๐๐๕ ๑๐:๒๖
กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--บีเอ็นที เอ็นเทอร์เทนเมนท์
“บีเอ็นที” จับมือ “ทราฟฟิกคอร์นเนอร์” พันธมิตรรายใหม่ลุยตลาดคลื่นวิทยุเต็มรูปแบบ ประกาศขึ้นแท่น Radio Operator รายแรกในประเทศไทย ไฟเขียว “ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ เรดิโอ” ร่วมทุน “บีเอ็นที เรดิโอ” ในสัดส่วน 47% มั่นใจการผนึกกำลังครั้งนี้เสริมเขี้ยวเล็บแต่ละฝ่ายแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สร้างความหลากหลายตอบสนองไลฟ์สไตล์คนฟังชัดเจนทุกระดับชั้น วางแผนขยายรูปแบบรายการเพิ่มเป็น 5 รูปแบบเร็วๆ นี้ ตั้งเป้าฟันส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 300 ล้าน
ม.ร.ว.รุจยารักษ์ อาภากร รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีมติให้บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ เรดิโอ จำกัด บริษัทในเครือบริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงทุนในบริษัท บีเอ็นที เรดิโอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกการเข้าร่วมลงทุนในบริษัท บีเอ็นที เรดิโอ จำกัด ระหว่างบริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ เรดิโอ จำกัด กับ บริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในวันนี้ (15 ก.ย.2548) โดยบริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)ถือหุ้น 50.5% บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ เรดิโอ จำกัด ถือหุ้น 47% ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 2.5% ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยบริษัทฯ กำหนดเป้าหมายในอนาคตของความร่วมมือในครั้งนี้คือ การเป็น Radio Operator เต็มรูปแบบรายแรกในประเทศไทย
ม.ร.ว.รุจยารักษ์ กล่าวว่า การร่วมมือกันครั้งนี้จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของทั้ง 2 บริษัท โดยแต่ละบริษัทจะสามารถนำจุดแข็งของตัวเองมาเสริมสร้างความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจวิทยุให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมาทั้ง 2 บริษัทมีการบริหารงานอย่างมืออาชีพและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่างกัน โดยในส่วนของบีเอ็นที เรดิโอ จะมีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตรายการวิทยุ รวมทั้งมีเครื่องมือและอุปกรณ์ในการจัดรายการวิทยุที่มีความพร้อม ซึ่งปัจจุบันดำเนินการคลื่น 94.5 เลิฟ เอฟเอ็ม และคลื่น 98.0 ขณะที่บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ เรดิโอ จำกัด มีความเชี่ยวชาญในการผลิตคอนเทนต์ ทั้งข่าวสาร สาระ และข้อมูลต่างๆ การร่วมมือกันครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้ง 2 ฝ่าย สร้างความหลากหลายด้านสาระและบันเทิงในแต่ละคลื่นได้มากขึ้น สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์คนฟังได้ทุกระดับชั้น และมีความพร้อมที่จะรุกสู่การเป็น Radio Operator ตามเป้าหมายที่วางไว้
ม.ร.ว.รุจยารักษ์ยังกล่าวด้วยว่า แนวคิด Radio Operator เป็นการพัฒนาจากผู้จัดรายการวิทยุไปสู่การเป็นผู้บริหารรายการวิทยุ ที่จะนำผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านเข้ามาเสริมให้การจัดรายการวิทยุมีความหลากหลายและน่าสนใจเพิ่มขึ้น รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรในวงการวิทยุให้มีความเชี่ยวชาญทั้งนี้จากเดิมที่บริษัทฯ มีการจัดรายการวิทยุเพียง 2 รูปแบบ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายรูปแบบการจัดรายการให้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้นเป็น 5 รูปแบบ ประกอบด้วย รูปแบบที่ 1 เป็นสถานีเพลงรัก นำเสนอเพลงสากล รูปแบบที่ 2 สถานีเพลงลูกทุ่ง รูปแบบที่ 3 สถานีนิวส์ วาไรตี้ นำเสนอข่าวสารสาระและความเคลื่อนไหวต่างๆ ในสังคมปัจจุบันทุกๆ ด้าน รูปแบบที่ 4 สถานีเพลง เน้นกลุ่มวัยรุ่น นิสิต นักศึกษา และรูปแบบที่ 5 สถานีเพลงไทย ฟังสบาย สไตล์อีซี่ ลิสซึ่นนิ่ง เน้นกลุ่มคนทำงานเป็นหลัก
“ในรอบ 8 เดือนแรกของปีนี้(มค. — สค. 2548) สื่อวิทยุมีส่วนแบ่งของธุรกิจโฆษณาเป็นอันดับ 4 หรือมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,487,595,000 บาท จะเห็นได้ว่าสื่อวิทยุยังเป็นสื่อที่มีศักยภาพในการเติบโตและสามารถพัฒนาในเชิงธุรกิจได้อีกมาก ในส่วนของบีเอ็นที เรามั่นใจในการรุกธุรกิจสื่อวิทยุในครั้งนี้ด้วยเหตุผล 2 ประการ ประการแรกการเป็นเจ้าของสัมปทานคลื่นวิทยุหลายคลื่นและความสามารถบริหารให้เกิดรูปแบบที่หลากหลาย นอกจากจะสามารถตอบสนองกลุ่มลูกค้าได้มากแล้ว บีเอ็นทียังสามารถบริหารรายการวิทยุด้วยต้นทุนที่ต่ำ ประการที่สอง สื่อวิทยุยังสามารถขยายไปยังธุรกิจต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจบีโลว์เดอะไลน์ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งรายได้ในสื่อวิทยุทั้งสิ้นอย่างน้อย 300 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท” ม.ร.ว.รุจยารักษ์กล่าว
นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมด้วยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถนำจุดแข็งที่มีอยู่ในด้าน คอนเทนต์ เข้ามาร่วมจัดการบริหารงานและประสานความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจวิทยุให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้กลุ่มทราฟฟิกคอร์นเนอร์ฯ ได้ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการใหม่ ด้วยการยึดรูปแบบการบริหารงานที่แบ่งตามประเภทของคอนเทนต์แทนการบริการตามรูปแบบของสื่อ เนื่องจากปัจจุบันสื่อต่าง ๆ มีความเชื่อมโยงกันได้หมด การปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ถือเป็นการบริหารจัดการด้านคอนเทนต์เพื่อให้แต่ละสื่อสามารถใช้เนื้อหาร่วมกันได้ทั้งหมด และยังมีการจัดโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
“การร่วมลงทุนในครั้งนี้ เน้นการเพิ่มศักยภาพทั้งในด้านยอดขาย และความนิยมของผู้ฟัง และมั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ทางด้านการผลิตรายการของบีเอ็นที และการมีคอนเทนต์ที่หลากหลายของกลุ่มทราฟฟิกคอร์นเนอร์ฯ จะช่วยพัฒนารูปแบบรายการให้มีสีสัน และมีความแตกต่างได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยลดต้นทุนในการบริหารงานได้อีกทางหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจสื่อวิทยุเป็นธุรกิจที่มีอัตราการตอบแทนในการทำกำไรค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับสื่ออื่น หากรายการมีเรตติ้งที่ดี และได้รับความนิยมก็คาดว่าความสามารถในการทำกำไรในแต่ละคลื่น มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน” นายสุรพงษ์กล่าวในที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ทีมงานประชาสัมพันธ์
รังสรรค์ รัตนนิตย์ 0-2684-5769
ภัทรา วิฑิตพงษ์วนิช 0-1736-8985
จีราวรรณ จีนวรรณ 0-9926-2196
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บีเอ็นที เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)
0-2712-8181 ต่อ 401 แฟกซ์ 0-2712-5206
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บมจ.ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์
0-2718-1999 ต่อ 148 แฟกซ์ 0-2718-1444--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๒๙ โครงการ มูลนิธิยาเพื่อนยาก ครั้งที่ 17 สัญจรสู่พื้นที่ห่างไกล จ.น่าน มอบสิ่งของและเงินสนับสนุนสำหรับโรงเรียนบ่อเกลือ
๑๓:๒๐ ทำความเข้าใจ DNSSEC เสริมความปลอดภัยให้กับอินเทอร์เน็ต
๑๓:๕๘ ดูโฮม ผนึกกำลัง กฟผ. ส่งความสุขส่งท้ายปีเพื่อคนไทย มอบส่วนลดเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ผ่านแคมเปญ ฉลากเบอร์ 5 ด้วยรัก(ษ์)
๑๓:๕๔ จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ คาร์บอนเครดิตในประเทศไทย
๑๓:๓๕ สุดป่วน! เต๋อ-เต้ย-ชาย-เอิร์ธ สวมบทแก๊งแป๊ะยิ้ม เชิดเงินแจก ในละคร มือปราบกระทะรั่ว
๑๓:๕๑ กทม. เข้มจัดระเบียบขอทาน-คนไร้บ้านในกรุงเทพฯ ย้ำ หยุดให้ = หยุดขอทาน
๑๓:๐๒ กสิกรไทยครองตำแหน่งในดัชนี DJSI ต่อเนื่อง 9 ปีซ้อน แบงก์แรกของไทย
๑๑:๑๒ พราว กรุ๊ป จัดกิจกรรมยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 'Amazing Thailand Hua Hin Countdown 2025' พร้อมบิ๊กเซอร์ไพรส์คอนเสิร์ต คิม
๑๑:๐๑ ส่งท้ายปี 31 ธันวาคม 2567 ด้วยมื้ออาหารค่ำบุฟเฟ่ต์ New Year Eve นานาชาติ ณ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย แอนด์
๑๑:๒๓ SMC เผยความสำเร็จในการผลักดันอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ 4.0 พร้อมเผยผลการสำรวจระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทยปี