นายทวี จุลศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีแพค อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ DPAC ผู้จัดจำหน่าย แผ่นฟิล์ม บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนเน้นที่นวัตกรรมใหม่ รายใหญ่ของประเทศ ภายใต้แบรนด์ “HERO” และแบรนด์ “สวัสดี” เปิดเผยถึง แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2556 ว่าบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในอาเซียน โดยได้ทำการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมสนองตอบความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลาย และพัฒนาศักยภาพของบริษัทให้มีศักยภาพด้านอุตสาหกรรมพลาสติกติดอันดับ 1 ของประเทศไทย
โดยได้วางแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ 4 นวัตกรรม ประกอบด้วย 1) นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ระดับโลก เพื่อขยายฐานการตลาดระหว่างประเทศ และภายในประเทศ 2) นวัตกรรมที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า จากมาตรฐานระดับโลกไป สู่สินค้าที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคชาวไทย 3) นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่ 4) นวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใส่ใจชุมชนและสังคม
“แบรนด์สินค้าของบริษัทถูกแบ่งเซ็กเม้นท์อย่างชัดเจน โดยแบรนด์ “HERO” เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม เพื่อผู้บริโภคใช้งานเอง (B2C) ส่วนแบรนด์ “สวัสดี” เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ (B2B) โดยการผลิตสินค้าทั้งสองแบรนด์มีมาตรฐานการผลิตโดยกลุ่มบริษัท คิงส์แพ็ค ที่มีมาตรฐานระดับสากล และคิงส์แพ็คก็มีพื้นที่และกำลังการผลิตใหญ่ติดระดับ1 ใน 3 ของเอเชีย ได้รับความไว้วางใจในการผลิตสินค้า OEM ให้กับแบรนด์ดังในยุโรป อเมริกาและญี่ปุ่น มานานมากกว่า 10 ปี และโรงงานการผลิตมีที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีเยี่ยม การคมนาคมสะดวก ทั้งสนามบิน ท่าเรือแหลมฉบัง เชื่อว่าด้วยศักยภาพของกลุ่มคิงส์แพ็ค สามารถผลักดันให้การทำการตลาดของบริษัทฯ เดินหน้าได้อย่างเต็มที่และเข้มแข็ง”
นายทวี กล่าวถึงแผนการตลาดในปีนี้ว่า บริษัทเตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ “HERO” ออกสู่ตลาดประมาณ 5 - 6 ประเภท อาทิ Zipper Bag, Cling Wrap และ Food Bag ฯลฯ เพื่อสนองความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลาย ตามรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในยุคสมัย และจะจัดกิจกรรมการตลาดในหลายรูปแบบให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ (B2B) บริษัทเตรียมเปิดตัวแบรนด์ “สวัสดี” เพื่อบุกตลาด B2B และจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ทั้งในประเทศและกลุ่มอาเซียน เช่น พม่า ลาว กัมพูชา ฯลฯ ที่บริษัทได้เข้าไปทำการตลาดมาแล้วและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะตลาดอาเซียน ซึ่งมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นก่อนการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งผลจากการขยายการตลาดอย่างต่อเนื่องและมั่นคง โดยได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของบริษัทในปี 2556 อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท อัตราการเติบโตของยอดขายปีละ 20%
“เราโชคดีที่ให้ความสำคัญกับตลาดอาเซียนมาโดยตลอด และเริ่มบุกตลาดมานานจากแบรนด์เดิม คือตรา D ซึ่งเป็นสินค้าจับตลาดระดับล่าง โดยเข้าไปทำตลาดจนติดอันดับต้นๆ ทั้งในพม่า, ลาว และกัมพูชา และในปีนี้จะขยายตัวไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วอาเซียน โดยปรับรูปโฉมและรีแบรนด์ใหม่ให้มีความเป็นเอกลักษณ์ภายใต้แบรนด์ “สวัสดี” เพื่อมาเจาะตลาดระดับกลางมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของบริษัท ในการมีสินค้าที่สนองตอบผู้บริโภคในทุกระดับชั้น เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเสรีอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้า” นายทวีกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในด้านนวัตกรรมเพื่อคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทตระหนักและให้ความสำคัญมาตลอด ในขณะเดียวกันกลุ่มสินค้าประเภทถุงขยะ ที่นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของความสะอาดมียอดขายเป็นอันดับต้นๆ บริษัทจึงได้จัดโครงการ “HERO Amazingly Clean Thailand มหัศจรรย์เมืองไทยสะอาด” ขึ้น เพื่อให้เป็นกิจกรรมที่มีส่วนร่วมในการจัดระเบียบดูแลเกี่ยวกับความสะอาดในทุกพื้นที่สาธารณะที่มีความต้องการอย่างแท้จริง อาทิ สถานที่ราชการ, สถานีตำรวจ, โรงพยาบาล, สถานศึกษา เป็นต้น
สำหรับโครงการแรกที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (26 ม.ค. 2556) บริษัทฯ เตรียมเข้าไปบูรณะซ่อมแซมและทำความสะอาด พื้นที่บริเวณโรงเรียนเมืองพัทยา 1 โดยเริ่มต้นทำความดีกับ HERO คนดีของสังคมจากหลากหลายอาชีพที่อุทิศตนเพื่อทำความดีให้สังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน ดังนั้น ในปีนี้จะได้เห็นภาพการเปลี่ยนภายในองค์กรอย่างชัดเจน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความแข็งแกร่งภายในมากยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมกับการก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยังยืน