“เรียลลิตี้ ยุ่น”ถ่ายทำวิถีชีวิตโอท็อปไทย ลุยเมืองชล “จักรสานป้าปราณี” และบุรีรัมย์ “ผ้าไหมบ้านตุ้มทอง” ออกอากาศช่องเทเลบิ ในญี่ปุ่น กรมส่งเสริมการค้าฯชี้เป็นการสื่อสารภาพลักษณ์ วัฒนธรรมและสินค้าไทยแบบลงตัว

ศุกร์ ๐๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๓ ๑๕:๑๓
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) เปิดเผยถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “โอท็อป” ภายใต้นโยบายรัฐบาลโดย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่ต้องการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของสินค้ารากหญ้าในการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งยั่งยืนว่า กรมฯ ได้เร่งผลักดันและพัฒนาผลิตภัณฑ์โอท็อปเป้าหมายให้เข้าร่วมทุกงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ เช่น งาน BIG & BIH งาน THAIFEX งาน TIFF เป็นต้น ซึ่งกรมฯจะมุ่งเน้นต้องสร้างแบรนด์ประเทศไทย ทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์โอท็อปออกสู่ตลาดและคงอยู่ในตลาด ปัจจุบันกรมฯได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนกว้างขวางมากทั้งในและนอกประเทศ เพื่อกระจายสินค้าโอท็อปให้เพิ่มขึ้น

ล่าสุดมีรายการสารคดีกึ่งเรียลลิตี้ ของประเทศญี่ปุ่น ทางช่อง “โตเกียว เทเลบิ” ติดต่อเพื่อขอถ่ายทำรายการโทรทัศน์ และนำออกอากาศในประเทศญี่ปุ่น เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าโอท็อปของประเทศไทย ผ่านนักแสดงญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง 2 คน ชื่อ น.ส.มิซูโนะ ยูโกะ กับน.ส.ทะมะรุ มากิ โดยคณะถ่ายทำของญี่ปุ่นกลุ่มที่ 1 ที่มียูโกะ เป็นตัวละครดำเนินเรื่องหลัก ไปถ่ายทำรายการที่โรงงานจักรสานปราณี ในจ.ชลบุรี และกลุ่มที่ 2 มีมากิ เป็นตัวละครหลัก ไปถ่ายทำที่เกี่ยวกับผ้าไหม ที่บ้านตุ้มทอง จ.บุรีรัมย์

“รายการจะเป็นประเภทแนวเรียวลิตี้ ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น ดำเนินเรื่องในลักษณะมาร่วมสืบค้น เสาะหา เปิดรับการใช้ชีวิตในวิถีความเป็นไทย และเรียนรู้วัฒนธรรมไทยแท้ ในพื้นที่ผลิตสินค้าที่เป็นชนบท พื้นเมืองท้องถิ่นจริงๆ ซึ่งต้องดำเนินชีวิต ท่ามกลางการก้าวผ่านเข้าสู่การเริ่มต้นยุคแห่งเอเชียในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ซึ่งตัวละครได้ถ่ายทอดให้เห็นถึงองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญ โดยเทียบเคียงกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่มีสินค้าโอท็อปเชื่อมโยงผูกพันและเชื่อมต่อจากคนรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่งได้อย่างผสมกลมกลืน ซึ่งถือเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ วัฒนธรรมไทยและสินค้าไทยได้อย่างลงตัว” นางศรีรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้กรมฯมีโครงการโอท็อป พรีเมี่ยม ที่เน้นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีการออกแบบและพัฒนาต่อยอดสินค้าดีเด่น จึงได้ริเริ่มใช้แบรนด์ “พอดี” (pordi) ซึ่งเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์โอท็อปทั่วประเทศ ให้ความรู้ในการพัฒนาสินค้า ในกลุ่มของขวัญ ของชำร่วย ของตกแต่งบ้าน ของเล่น เครื่องเขียนสำหรับตลาดส่งออกที่เริ่มมาบ้างแล้ว แต่เพิ่งเริ่มต้น และจะใช้เป็นแบรนด์ pordi ในการนำโอท็อปออกสู่ตลาดโลก

“ในงานโอท็อปที่ผ่านมา กรมฯได้จัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจมีคำสั่งซื้อทันทีและตลอดปีนี้คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อราว 450 ล้านบาท และยังมีช่องทางตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(อี-คอมเมิร์ซ) ที่กรมฯสนับสนุนให้เกิดการค้าผ่านระบบออนไลน์เกิดขึ้นอีกด้วย ซึ่งสินค้าที่ได้รับความสนใจ อาทิเครื่องครัว เครื่องใช้สำหรับร้านอาหารและโรงแรม อาหารสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์อาหาร สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ขนมขบเคียว เครื่องดื่มน้ำผลไม้ เครื่องใช้สำนักงาน ผลไม้แปรรูป เป็นต้น“นางศรีรัตน์ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ