กรมส่งเสริมการค้าฯขับเคลื่อน “ครัวไทยสู่โลก” เปิดแผนรุกตลาดเกษตรและอาหาร หวังปีนี้ขยายตัว 10% ชูลุกค์อาหารไทยรสชาติดีมีคุณภาพและดีต่อสุขภาพ

จันทร์ ๐๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๓ ๑๑:๓๔
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) เปิดเผยถึงการผลักดัน“ครัวไทยสู่ครัวโลก” ภายใต้นโยบายรัฐบาลโดย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่ต้องการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการตลาดอย่างยั่งยืน ครอบคลุมการพัฒนาและการส่งเสริมสินค้าเกษตร อาหาร ธุรกิจอาหารและร้านอาหารไทยทั้งประเทศและต่างประเทศว่า รัฐบาลมีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยสูงขึ้น 10% สถานประกอบการด้านอาหารได้รับมาตรฐานเพิ่มขึ้น 5% และอาหารของประเทศไทยมีภาพลักษณ์เป็นอาหารรสชาติดีมีคุณภาพและดีต่อสุขภาพ โดยสอดรับกับภาวะตลาดโลกที่ต้องการสินค้าบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในปี 2556 ไทยได้ตั้งเป้าหมายในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้น 10 % โดยกรมฯมีแผนในการส่งเสริมและพัฒนาการส่งออกสินค้าอาหารหลายโครงการ อาทิ กิจกรรมพัฒนาสินค้าและผู้ประกอบการ 4 กิจกรรม อาทิ โครงการเจาะตลาดอาหารสุขภาพเพื่อการส่งออก โครงการลู่ทางกาค้าการส่งออกอาหารแช่แข็งไปตลาดยุโรปและอาเซียน เป็นต้น การจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ 12 งาน คณะผู้แทนการค้าไปเจรจาการค้าในต่างประเทศ 5 คณะ เพื่อเดินทางไปเจรจาการค้าในประเทศอาเซียน จีน อินเดีย ญี่ปุ่นและตะวันออกกลาง เป็น

ส่วนงานแสดงสินค้าอาหาร เครื่องดื่มและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องสำคัญในต่างประเทศตามภูมิภาคต่างๆ ของโลกมีจำนวน 19 งานใน 14 ประเทศ อาทิ งานแสดงสินค้า World Food Moscow 2013 กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 56 งานแสดงสินค้าFine Food Australia 2013 นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 9-12 กันยายนนี้ งานแสดงสินค้า Food Taipei 2013 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายนนี้ และงานแสดงสินค้า Anuga 2013 เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 5-9 ตุลาคมนี้ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังได้มีแผนที่จะจัดให้คำปรึกษาและช่วยเหลือนักธุรกิจไทยในการเข้าไปลงทุน หรือร่วมทุนทำธุรกิจอาหาร หรือ เปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศใน 2 ภูมิภาค คือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เวียดนาม พม่า อินโดนีเซีย)และยุโรปตะวันออก(รัสเซีย โปแลนด์) เพื่อให้คำปรึกษาด้านการตลาด กฎหมายและด้านเงินทุน คาดว่าจะเพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร เปิดธุรกิจ และผลักดันให้สินค้าอาหารไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้นในต่างประเทศ

ทั้งนี้จากการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคเป็นระยะๆ เพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์ทั้งในด้านการขยายตลาดส่งออกเชิงรุก ที่มุ่งเน้นส่งเสริมการส่งออกสินค้าอาหารที่มีมูลค่าเพิ่ม และควรมีความพร้อมในการปรับตัวให้ทันกับมาตรการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันสินค้าอาหารที่ผลิตจากประเทศไทยถือเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคให้การยอมรับในเรื่องคุณภาพ ยังถือเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยยังมีการพัฒนาตลาดและยกระดับการค้าสู่สากล ในรูปแบบต่างๆ เช่น การแต่งตั้งตัวแทน การจัดตั้งสาขา การมีหุ้นส่วนหรือ ผู้ร่วมทุน การขยายแฟรนไชน์ของไทยเข้าไปในตลาดต่างประเทศ การสร้างตราสินค้าของตนเอง รวมทั้งการแสวงหาแหล่งวัตถุดิบราคาถูกในต่างประเทศ และการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจ เพื่อเป็นการลดต้นทุน

อย่างไรก็ตามกรมฯได้รับทราบและติดตามปัญหาและอุปสรรคของอุตสาหกรรมอาหารไทย และแสวงหาแนวทางช่วยเหลือผู้ส่งออก แม้ว่าท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้าสำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปซึ่งประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และมีผลให้อัตราแลกเปลี่ยนของเงินเหรียญสหรัฐ และเงินยูโรมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลง อาจส่งผลต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในตลาดดังกล่าวลดลง ขณะที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูง อันเป็นผลจาก สภาวะอากาศที่แปรปรวนทำให้ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมีผลให้ต้นทุนการผลิตและต้นทุนลอจิสติกส์เพิ่มสูง

ประกอบกับภาวะการค้าโลกในปัจจุบัน มีการนำมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษีมาใช้ในการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศมากขึ้น อาทิเช่น มาตรฐานสุขอนามัยที่เข้มงวดขึ้น มาตรการทางด้านแรงงานและมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าจะมีมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิตมาบังคับใช้กับผู้ผลิต/ส่งออก และภาวะการแข่งขันทางการค้าการลงทุนจากทั่วโลกรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ยังคงดำเนินธุรกิจส่งออกโดยใช้ราคา F.O.B. เป็นหลัก ทำให้ไม่ได้รับผลประโยชน์ที่เกิดจากมูลค่าเพิ่มและส่วนต่างภายนอกประเทศ รวมไปถึงการขาดแคลนวัตถุดิบเพื่อนำมาใช้ในการผลิต ทำให้ต้องมีการแสวงหาวัตถุดิบมาใช้ในภาคการผลิต สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิตสินค้า และส่งผลกระทบให้ไทยอาจต้องเสียส่วนแบ่งในตลาดโลก

สำนักประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร.(02) 507-7932-34

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ