นายวิมล จันทร์จิราวุฒิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) ดำเนินงานโครงการเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น ตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ ๒ ประการ คือ ๑) เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ที่ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือผู้อยู่ในภาวะยากลำบากให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขตามอัตภาพและพึ่งพาตนเองได้ และ ๒)เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่สามารถดำรงชีวิตและประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม ในการดำเนินงาน สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็กฯ แต่งตั้งคณะกรรมการเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบากและผู้ที่อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น ซึ่งได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือก และกำหนดให้มีการเชิดชูเกียรติ ๔ ประเภท คือ ๑)ประเภทบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก ๒) ประเภทองค์กรผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก ๓)ประเภทสื่อที่ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก และ ๔) ประเภทบุคคลที่อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น
สำหรับปี ๒๕๕๕ มีการเสนอชื่อบุคคล องค์กร และสื่อ รวมถึงผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก รับการพิจารณาคัดเลือก รวมทั้งสิ้น ๑๖๒ ประวัติและผลงาน ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาและคัดเลือก ให้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ รวมทั้ง ๔ประเภท จำนวนทั้งสิ้น ๕๖ ราย และในปีเดียวกันนี้ คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบชื่อรางวัล “ประชาบดี” เป็นรางวัลที่จะมอบให้แก่บุคคล องค์กร สื่อ ที่ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในภาวะยากลำบาก และผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น สามารถดำรงชีวิตเป็นแบบอย่างควรแก่การยกย่องเชิดชูเกียรติ