นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านระบบการเตือนภัย การลดความเสี่ยงภัย และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันภัย การปฏิบัติตนเมื่อเกิดภัยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยงภัย และให้ประชาชนเป็นเครือข่ายในการช่วยดูแลบำรุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ติดตั้งไว้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนว 25 ลุ่มน้ำที่ประสบภัยพิบัติเกี่ยวกับน้ำท่วม น้ำหลาก และดินโคลนถล่มเป็นประจำแทบทุกปี อาทิ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย อำเภอละงู จังหวัดสตูล อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น และอำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้น ซึ่งโครงการนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย มีความเข้าใจในระบบการแจ้งเตือนภัยของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โดยเฉพาะการแจ้งผ่านหอเตือนภัย หอกระจายข่าว เครื่องรับสัญญาณเตือนภัยผ่านดาวเทียม สถานีถ่ายทอดสัญญาณเตือนภัย เครื่องรับสัญญาณเตือนภัยในท้องที่ เพื่อสามารถเฝ้าระวัง ป้องกัน ตลอดจนเตรียมการในการอพยพหลบภัย ได้อย่างถูกวิธีและเป็นมาตรฐาน
“พร้อมกันนั้นยังได้มีการฝึกซ้อมปฏิบัติด้านการเตือนภัยและการสื่อสาร ภายใต้โครงการ “ฝึกซ้อมการปฏิบัติด้านการเตือนภัยและการสื่อสารเพื่อเตรียมความพร้อม ประจำปี 2556” โดยเริ่มจากการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมในการฝึกซ้อมให้แก่แกนนำ กรรมการหมู่บ้าน มูลนิธิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงานส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐ ขณะเดียวกันให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการ และจัดเตรียมระบบในการติดต่อสื่อสารระหว่างศูนย์บัญชาการในแต่ละระดับ เพื่อแจ้งภัย การจัดการกับภัยพิบัติ การบรรเทาภัย และการอพยพ หลบภัย หลังจากนั้นจึงดำเนินการฝึกซ้อมเพื่อให้เป็นไปตามแผนเตรียมความพร้อมในการเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งภายหลังการฝึกซ้อมเสร็จแล้วยังจัดให้มีการสรุปผลและประเมินผลโครงการอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนภาคประชาชนให้เข้าใจถึงระบบการเตือนภัย บทบาท หน้าที่ ภารกิจ และสามารถใช้ระบบเครือข่ายสื่อสารหลักและสำรองได้ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ เพื่อลดการเสี่ยงภัยพิบัติทางธรรมชาติ” นายสมบูรณ์กล่าว
ติดต่อ:
PR.MICT 02-141-6747