นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PPP เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 82.5 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2556ในราคาเสนอขายที่ 5 บาท/หุ้น ปรากฎว่าหุ้นของ PPPได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดจากนักลงทุน โดยตั้งในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอ ปรากฎว่าหุ้นของ PPP ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
“หลังจากเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอ PPP ตั้งแต่วันแรก ก็มียอดจองเข้ามาล้นเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้แล้ว ซึ่งถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เชื่อว่าเป็นเพราะปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจที่แข็งแกร่ง เห็นได้จากผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกที่ผ่านมาของบริษัทฯ ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 993.51 ล้านบาท ก็สามารถสามารถทำรายได้สูงกว่าปี 2554 ทั้งปี ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 916.14 ล้านบาทแล้ว อีกทั้งในปีนี้ บริษัทฯจะมีรายได้เติบโตอย่างโดดเด่น ทั้งจาการเติบโตของธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน ที่จะรับรู้รายได้ในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครบทั้ง 3 แห่ง จึงเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต ประกอบกับก่อนหน้านี้ นักลงทุนกลุ่มสถาบัน ก็มียอดจองเข้ามาล้นกว่า 19 เท่าแล้วยิ่งสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนมากยิ่งขึ้น” นางสาวพัชพร กล่าว
นางสาวพัชพร กล่าวอีกว่า คาดว่าหลังจากที่หุ้น PPP เข้าซื้อขายในกระดานจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากคาดว่าจะมีนักลงทุนจำนวนมากที่พลาดหวังจากการจองซื้อหุ้นไอพีโอ จะเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานแทน เห็นได้จากความประสงค์ในการจองซื้อหุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมา ที่มีนักลงทุนทั้งรายย่อย และสถาบันต้องการหุ้นอีกจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับการจัดสรรหรือได้รับการจัดสรรไม่เต็มจำนวนจึงเป็นไปได้ที่นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวจะเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานและสนับสนุนให้การซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก
นายสุรเดช บุณยวัฒน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน)ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมระดับแนวหน้าของประเทศไทย ในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ กล่าวว่า หุ้นไอพีโอของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ คาดว่าเป็นเพราะบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง บริษัทฯ
มีทั้งธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่น และธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงอยู่ในบริษัทฯ เดียวกัน ซึ่งจะทำให้ พรีเมียร์ โพรดักส์ เป็นบริษัทฯ ที่มีทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจนต่อเนื่องและโดดเด่นในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ธุรกิจของบริษัทฯ ถือว่าอยู่ในกลุ่มธุรกิจรักษ์โลก ซึ่งเป็นธุรกิจแห่งอนาคตจึงเชื่อว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้บริษัทฯ มีทิศทางการเติบโตที่ดี และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้ พร้อมทั้งมั่นใจหลังเข้าทำการซื้อขาย PPP จะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง