นมไทย-เดนมาร์ค รุกจริงทุ่ม 800 ล้านตั้งโรงงานใหม่ ตั้งเป้าขายอาเซียน 5 ปี ทะลุ1000 ล้าน

ศุกร์ ๐๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๓ ๑๓:๔๗
นมไทย-เดนมาร์ค เดินหน้าลุยตลาดอาเซียนทุ่ม 800 ล้านบาท ผุดโรงงานลำปางรองรับตลาดเหนือบน บูมหวังส่งพม่า จีน หลังเจรจาไปได้ดี ส่วนใต้เสริมเครื่องจักรโรงงานปราณบุรี รุกตลาดใต้ไกลถึงมาเลเซีย ในขณะที่ตลาดกัมพูชา ลาวไร้คู่แข่ง เชื่อ 5 ปีเป้าส่งออกอาเซียนทะลุ 1000 ล้าน

นายนพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งชาติ หรือ อ.ส.ค. ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมไทย-เดนมาร์ค เปิดเผยถึงกลยุทธ์และทิศทางการตลาดในปี 2556 ของนมไทย-เดนมาร์คว่า ในปีที่ผ่านมา นมไทย-เดนมาร์คมียอดรายได้เติบโตราว 20-30% ต่อปี ในขณะที่ภาพรวมของอุตสาหกรรมนมพร้อมดื่มมีมูลค่าราว 15,000 ล้านบาท ไทย-เดนมาร์คมีส่วนแบ่งอยู่ราว 30% ในกลุ่มนม UHT ที่ใช้นมสดผลิตถือเป็นมาร์เก็ตแชร์อันดับสอง เพราะผู้เล่นหลักมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย คือ ทั้งนมพาสเจอร์ไรส์ UHT และนมเปรี้ยว

โดยกลยุทธ์สำคัญในการทำตลาดต่างประเทศนั้น นายนพดล ได้อธิบายว่า ที่ผ่านมานมไทย-เดนมาร์คได้จำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านตัวแทนจำหน่ายแล้ว ทั้งในกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ส่วนในพม่า นั้น ที่ผ่านมาค้าขายกันตามแนวชายแดน แต่ขณะนี้ได้มีตัวแทนจำหน่ายเข้ามาเจรจาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายในพม่าแล้ว ซึ่งในประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ มีความนิยมและเชื่อมั่นในสินค้าจากประเทศไทยเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเพราะได้รับอิทธิพลจากสื่อโทรทัศน์ และศิลปินจากเมืองไทย แม้ว่าสินค้าไทยที่เข้าไปจำหน่ายจะราคาสูงกว่าราว 20-30% โดยรายได้จากการจัดจำหน่ายในต่างประเทศนั้นอยู่ที่ราว 300 ล้านบาท

สำหรับตลาดจีนและเวียดนามนั้น ช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีการร่วมประชุมหารือกับนักธุรกิจตัวแทนจำหน่ายนมของประเทศเวียดนามและจีน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกและหาแนวทางส่งเสริมการขายสินค้านมและผลิตภัณฑ์ของ อ.ส.ค.เข้าสู่ตลาดประเทศเวียดนามและจีน อยู่ระหว่างการเจรจาถึงความเป็นไปได้ในการผลิตว่าจะเป็นการผลิต เชื่อว่าหากการเจรจาบรรลุข้อตกลง จะเป็นโอกาสสำคัญในการบุกตลาดจีน เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังกังวลต่อคุณภาพและมาตรฐาน ในแบรนด์สินค้าที่ผลิตในจีนเอง นับเป็นโอกาสที่ดีเพราะตลาดการบริโภคจีนนั้นยังมีมูลค่ามหาศาล ที่ อ.ส.ค.เองต้องวางแผนการผลิตให้รัดกุมเป็นอย่างดี

“ในปีนี้ อ.ส.ค.ได้เดินหน้าเพื่อสร้างโรงงานในพื้นที่ จ.ลำปาง และปรับปรุงเครื่องจักร มูลค่า 800 ล้านบาท เพื่อรองรับการผลิตและจัดจำหน่ายในพื้นที่เขตภาคเหนือตอนบน ที่ตลาดกำลังเติบโตต่อเนื่องประกอบกับมีแผนที่จะทำตลาดในพม่าและจีนอนาคต ซึ่งจะสามารถผลิตได้ไม่น้อยกว่า 140 ตันต่อวันเสริมโรงงานเชียงใหม่ผลิตได้ราว 10 ตันต่อวัน ซึ่งจะทำให้เราสามารถเข้มแข็งในพื้นที่ภาคเหนือยิ่งขึ้นในการกระจายสินค้า”

ปัจจุบัน อ.ส.ค.มีโรงงานผลิตทั้งหมด 5 โรงงาน คือ มวกเหล็ก,เชียงใหม่,ขอนแก่น,สุโขทัยและปราณบุรี ที่สามารถรองรับน้ำนมดิบได้ราวเฉลี่ย วันละ 500 ตันต่อวัน โดยโรงงานที่ จ.ลำปาง จะเริ่มก่อสร้างราวไตรมาส 3 ของปีนี้ และแล้วเสร็จในปี 2558 เชื่อว่าจะเสร็จทันต่อการเปิดเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในขณะเดียวกันก็ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรที่เคยใช้งานมาตลอดระยะเวลา 20-25 ปีให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสมบูรณ์มากขึ้น โดยรูปแบบของเครื่องจักรก็จะเป็นระบบที่พึ่งแรงงานคนน้อยที่สุด เนื่องจากปัญหาการขาดแรงงานในกระบวนการผลิตหลังเปิด AEC แล้วจะเป็นปัญหาที่รุนแรงยิ่งขึ้น

นอกจากการส่งออกผลิตภัณฑ์นม UHT แล้วด้านองค์ความรู้การเลี้ยงโคนมของอ.ส.ค.ที่พัฒนามาต่อเนื่องตลอดการน้อมรับอาชีพโคนม ซึ่งถือเป็นอาชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กว่า 50 ปี ทำให้ อ.ส.ค.คือ ฐานองค์ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงโคนมที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ที่สามารถพัฒนาสายพันธุ์โคนมจากยุโรปให้มีความทนทานต่อโรคระบาดในพื้นที่เขตร้อนชื้นได้เป็นอย่างดี ตลอดจนสามารถให้น้ำนมได้สูงกว่าสายพันธุ์อื่น โดยคู่แข่งด้านการเลี้ยงโคนมในภูมิภาคนี้แล้วยังไม่มีใครเข้มแข็งเท่า อ.ส.ค. โดยปีที่ผ่านมา อ.ส.ค.ได้ส่งออกพ่อพันธุ์โคไปยังเวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาต่อยอดเพิ่มขึ้น

“ขณะนี้เรากำลังจะน้อมเกล้าฯเพื่อถวายพระราชสมัญญานาม ‘พระบิดาแห่งการเลี้ยงโคนมไทย’ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แล้วจากนั้นเราก็ได้มีการนำเอาองค์ความรู้ด้านการเลี้ยงโคนมให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนที่มีความสนใจต่อการเลี้ยงโคนม เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับภูมิภาคนี้ยิ่งขึ้น”

สำหรับกลยุทธ์สำคัญในการรุกตลาดในประเทศนั้น ในปี 2556 อ.ส.ค.จะออกผลิตภัณฑ์นมใหม่ คือ โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ยู.เอช.ที ภายใต้แบรนด์ ไทย-เดนมาร์ค เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้น โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของ อ.ส.ค.นั้นจะเปิดตัว นมโยเกิร์ตพร้อมดื่มผสมคอลลาเจน พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์และภาพยนตร์โฆษณาใหม่ ประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ โดยย้ำในจุดแข็งสำคัญของนมไทย —เดนมาร์ค คือ ใช้นมโคสดแท้ 100 % ในการผลิต ซึ่งทำให้รสชาติของโยเกิร์ตพร้อมดื่มของนมไทย-เดนมาร์ค มีรสชาติหอม นุ่ม และเข้มข้นในเนื้อนมสดกว่านมผสมนมผง โดยมีทั้งหมด 4 รสชาติ คือ รสสับปะรด รสสตรอเบอรี่ รสเลม่อน และ รสส้ม โดยเตรียมงบประมาณในการทำตลาดดังกล่าวราว 100 ล้านบาท

“ตั้งเป้าใน 5 ปี อ.ส.ค.จะเพิ่มยอดขายนมไทย-เดนมาร์คในตลาดต่างประเทศให้ได้ 1,000 ล้านบาทต่อปี จากเดิมที่มียอดขายเพียง 200 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งเพิ่มยอดขายทั้งในและต่างประเทศให้เป็น 10,000 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่มียอดขายรวมที่ 6,500 ล้านบาท และมั่นใจว่า นมไทย-เดนมาร์ค จะเป็นเหมือนโลโก้ ไทยเฟรชมิลค์ของคนไทย” นายนพดลกล่าวในที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version