ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เป็นมีเสถียรภาพ

ศุกร์ ๐๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๓ ๑๕:๒๗
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว ของธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด มหาชน (SCBT) เป็นแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ ในขณะเดียวกันก็ได้ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ที่ ‘A+’ และ‘BBB+’ รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงอยู่ด้านท้าย

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ สะท้อนถึงการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารแม่ Standard Chartered Bank (SC; ‘AA-’/Stable) เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 (ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com)

อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตสนับสนุนของ SCBT สะท้อนถึงความเป็นไปได้สูงที่ SCBT จะได้รับการสนับสนุนจาก SC หากมีความจำเป็น จากการที่ SC เป็นผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมดของ SCBT และความร่วมมือในการดำเนินงานของทั้งสองฝ่าย รวมถึงผลกระทบต่อชื่อเสียงของ SC ในกรณีที่ SCBT มีการผิดสัญญาการชำระหนี้

แนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงไว้ที่แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ เนื่องจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ SCBT ถูกจำกัดโดย เพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ของ SCBT สะท้อนถึงการดำรงเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานที่ดี แหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่มีเสถียรภาพ การพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินนั้นยังได้คำนึงการสนับสนุนจากธนาคารแม่ โดยเฉพาะในด้านเครือข่ายในต่างประเทศ การใช้ชื่อธนาคารร่วมกัน การระดมทุน สภาพคล่อง และการบริหารความเสี่ยง

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต — อันดับเครดิตสากลและ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นของ SC หรือระดับการสนับสนุน รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตของ SC อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ SCBT นอกจากนี้ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ SCBT ถูกจำกัดโดย เพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย (Country Ceiling) ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของเพดานอันดับเครดิตของประเทศ อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ SCBT เช่นกัน

SCBT กำลังเผชิญแรงกดดันในด้านคุณภาพสินทรัพย์ หากคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารลดลงไปมากกว่าระดับปัจจุบัน อาจส่งผลให้มีการปรับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินลดลงได้ คุณภาพสินทรัพย์ซึ่งด้อยลงตั้งแต่ปลายปี 2554 มีแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากการมียอดลูกหนี้จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษสูงขึ้นจากลูกหนี้ธุรกิจรายใหญ่รายหนึ่ง ซึ่งชี้ให้เห็นความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อ และอาจทำให้อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (4.2% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555) เพิ่มขึ้นอีกจากระดับที่สูงกว่าธนาคารอื่นๆในประเทศที่มีอันดับเครดิตอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน (เฉลี่ยที่ 2.6% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555) อย่างไรก็ดีฟิทช์เชื่อว่าการที่ธนาคารดำรงเงินกองทุนชั้นที่หนึ่งในระดับสูงสุดในอุตสาหกรรมธนาคารไทย ที่ 17.5% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 จะช่วยป้องกันผลกระทบจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ผลการดำเนินงานโดยรวมของ SCBT ในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 โดยธนาคารมีกำไรสุทธิและอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อสินทรัพย์ (ROA) อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท และ 1.3% ตามลำดับ อัตราการเติบโตของสินเชื่อในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 อยู่ที่ 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เครือข่ายธุรกิจด้านเงินฝากของธนาคารยังอยู่ในระดับที่ด้อยกว่าธนาคารอื่น อย่างไรก็ตามธนาคารมีสภาพคล่องในระดับที่เพียงพอ จากการที่ธนาคารสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนภายในกลุ่ม รวมทั้งการที่ธนาคารมีสถานะสุทธิเป็นผู้ให้ยืมในตลาดระหว่างธนาคารอีกด้วย

SCBT เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 9 ของประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อและเงินฝากที่ต่ำกว่า 2% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555

รายละเอียดของอันดับเครดิตของธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) มีดังนี้

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F2’

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘A+’ ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F1’

- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินคงอันดับที่ ‘bbb+’

- อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ ‘2’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้นไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO