นายกรองเท้าห่วงภาพลักษณ์ไทยเสียหายย้ำดึงจุดแข็งความเป็นไทยเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า9ชีวิต “อึด..ถึก..ทน” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา คุณชนินทร์ จิตต์โกมุท นายกสมาคมรองเท้าไทย ได้เปิดเผยถึงความภาคภูมิใจที่ผู้เข้าร่วมชมงานและผู้ประกอบการทุกคนล้วนตื่นเต้นไปกับการมาเยือนของแชมป์เปี้ยนโลกThai Fight หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ ที่มาโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยและได้ร่วมทดสอบความอึดถึกทนของบรรดาสินค้าพันธุ์แกร่งภายในงาน บัวขาวยังได้กล่าวบนเวทีเชิญชวนให้เด็กๆและน้องๆเยาวชนที่มาร่วมชมงานหันมาสนใจในการเล่นกีฬาออกกำลังกายเพื่อให้เยาวชนของชาติมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงและห่างไกลจากยาเสพย์ติด นอกจากนี้คุณชนินทร์ นายกสมาคมรองเท้าไทย ยังได้ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวถึงความกังวลในเรื่องภาพลักษณ์ของความเป็นไทยโดยเฉพาะภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมรองเท้าของประเทศในขณะนี้ว่า “วันนี้ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมรองเท้าไทยก็ยังมีความน่ากังวลอยู่มากพอสมควร ทางแก้ไขที่ดีคือเราต้องมาร่วมมือกันปลูกจิตสำนึกในการทำธุรกิจรองเท้ากันใหม่ทั้งหมด เพราะเป็นเวลายาวนานมากแล้วที่ผู้ประกอบการรองเท้าบางรายมักจะอ้างตัวเองว่าเป็นผู้บุกเบิกตลาดการค้าการส่งออกไปยังต่างประเทศ แต่กลับมีพฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพลักษณ์ของสินค้ารองเท้าไทย ยกตัวอย่างง่ายๆ ผู้ประกอบการบางรายไปออกคูหาแสดงสินค้าในต่างประเทศโดยได้รับการช่วยเหลือส่งเสริมในหลายด้านจากภาครัฐ แต่เมื่อถึงวันแสดงสินค้ากลับมีการปลอมปนเอาสินค้าจากจีนเข้าไปจัดแสดงภายในคูหา ที่แย่มากๆคือผู้ประกอบการไทยบางรายยอมถึงขนาดให้มีคนจีนใช้ชื่อบริษัทของคนไทยเอง เพื่อจะให้คนจีนได้เข้าไปยืนนำเสนอสินค้าจีนเคียงคู่กันกับสินค้าไทย เรื่องนี้สร้างความสับสนให้กับผู้ที่ได้พบเห็นและสร้างความเสียหายให้แก่ภาพลักษณ์ของรองเท้าไทยเป็นอย่างมาก ในหลายๆงานแสดงสินค้าที่ผมไปเข้าเยี่ยมชมในต่างประเทศ มักจะมีผู้ซื้อชาวต่างชาติหลายคนที่ได้พบปะพูดคุยด้วยแสดงความคิดเห็นกับผมอย่างตรงไปตรงมาว่า รองเท้าของไทยที่เห็นในงานแสดงสินค้ายังไม่ได้คุณภาพเพราะเท่าที่เห็นก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากสินค้าจีน แลดูแล้วก็เหมือนกับรองเท้าราคาถูกจากจีนที่หาได้ทั่วไปเหมือนกันไปหมดจนแทบจะแยกไม่ออกจริงๆเขาจึงมุ่งไปซื้อรองเท้าจากจีนโดยตรงเลยดีกว่า เรื่องนี้สร้างความกังวลใจกับผมเป็นอย่างมาก จึงอยากขอวิงวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐควรมีมาตรการที่ชัดเจนในการลงโทษหรือจำกัดสิทธิในการส่งเสริมสนับสนุนกับผู้ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้าไทยได้รับผลกระทบ” คุณชนินทร์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่ากังวลใจคือการนำเสนอยอดตัวเลขการส่งออกรองเท้าไทยที่มีความคลาดเคลื่อนอย่างน่าตกใจ เพราะมีสื่อที่มีการนำเสนอการคาดการยอดตัวเลขการส่งออกรองเท้าของไทยในปี2556ที่ต่ำกว่าความเป็นจริงถึง13.6เท่า ทำให้หลายคนที่ได้รับข่าวสารเข้าใจว่าอุตสาหกรรมรองเท้าเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นSUN SETและเป็นอุตสาหกรรมที่มีขนาดเล็กมากจนแทบไม่มีนัยยะสำคัญในการให้การส่งเสริมสนับสนุน ผมอยากเรียนยืนยันไปยังสื่อทุกแขนงว่าอุตสาหกรรมและธุรกิจรองเท้าของไทยยังมีศักยภาพสูงมาก สมควรอย่างยิ่งที่ภาครัฐจะยังต้องให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพราะแค่เฉพาะมูลค่ารวมคร่าวๆของตลาดการส่งออกและจำหน่ายกันเองภายในประเทศของกลุ่มสินค้ารองเท้าแตะเพียงอย่างเดียวก็มีมูลค่าสูงถึง2-3หมื่นล้านบาทต่อปีและยอดตัวเลขนี้มีแต่จะเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต อย่างไรก็ดีในปี2556นี้ก็คาดว่ายอดการส่งออกรองเท้าของไทยน่าจะมากกว่าขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องคอยติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวบวกกับทิศทางการตัดสินใจในการสั่งซื้อของคู่ค้าหลักของไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งประเด็นในเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพของสินค้าไทยจะเป็นตัวชี้วัดได้ดีว่ายอดการส่งออกรองเท้าจะสามารถเพิ่มได้มากขึ้นมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นผู้ประกอบการรองเท้าของไทยจึงควรเร่งแสวงหาและดึงเอาจุดแข็งของความเป็นไทยที่ยังมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของฝีมือการผลิตและความคิดสร้างสรรค์ออกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก”