ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ฉลอง 25 ปี ลุยตลาดรับสร้างบ้านในต่างประเทศ ปักธงที่ลาวเป็นแห่งแรก พร้อมนำธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยสู่เวที AEC

อังคาร ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๓ ๑๕:๑๒
บ. ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ เจ้าตลาดรับสร้างบ้านหรูของไทย เตรียมโปรเจคฉลองครบรอบ 25 ปี ครั้งยิ่งใหญ่จัดกิจกรรมตอบแทนสังคมทั้งด้านการศึกษา-ชุมชน และจัดงานฉลองครั้งสำคัญในช่วงปลายปี พร้อมถือโอกาสดี 25 ปี โชว์ความเก๋าเจ้าตลาดบ้านหรู ขอเป็นเจ้าแรกที่ขยายตลาดไปสู่ AEC อย่างเป็นทางการ เปิดตัวคู่ค้าทางธุรกิจจากลาว หลังชิมลางออกแบบก่อสร้าง 2 หลัง ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในประเทศลาว คาดปีแรกจะมียอดขาย 100 ล้านบาท ในประเทศลาว และในไทยอีก 340 ล้านบาท รวมรายได้ 440 ล้านบาท ในปี 2556

นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด บริษัทผู้นำด้านรับสร้างบ้านพักอาศัยระดับหรูกล่าวถึง ภาพรวมการทำงานของปี 2555 ที่ผ่านมา และการเตรียมโครงการฉลองครบรอบ 25 ปี ในปี 2556 มุ่งสู่ AEC ว่า “ปี 2555 ของดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ เราสามารถทำรายได้ 303 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะขาดแคลนแรงงานในปี 2555 ทำให้ยอดรายได้พลาดเป้าไปถึง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจุบันยังคงมีบ้านที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้าง รวมมูลค่า 600 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพัฒนาแบบอีก 4 หลัง สำหรับในปี 2556 เป็นปีที่ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 แล้ว บริษัทได้วางกลยุทธ์ในการเติบโตขององค์กร โดยตั้งเป้ารายได้ในประเทศไว้ที่ 340 ล้านบาท และตั้งเป้าที่ สปป.ลาวไว้ที่ 100 ล้านบาท รวมเป็น 440 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ในการเติบโตของเรานั้น คือ การออกไปหาตลาดใหม่ในระดับ AEC ซึ่งที่ผ่านมาเราได้เคยรับงานออกแบบบ้านที่ลาว, ปากีสถาน, บังคลาเทศ มาแล้ว แต่ในการไปเปิดตลาดใหม่อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ เรามุ่งไปยัง สปป.ลาว เป็นประเทศแรก ทั้งนี้ เพราะปัจจุบันลาวเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น มีการพัฒนาประเทศไปแบบมีทิศทาง มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงขึ้น่เรื่อยๆ ที่สำคัญยังมีตลาดแรงงานฝีมือจากเวียดนามอยู่มาก ดังนั้น การไปดำเนินธุรกิจที่ลาวจึงถือเป็นโอกาสของเรา และที่สำคัญคนลาวได้เคยรู้จักดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์แล้ว เนื่องจากเราเคยมีผลงานที่ก่อสร้างแล้ว 2 หลัง รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาตลอด 25 ปี บ้านของลูกค้าที่ให้เกียรติ ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ สร้างนั้นมีหลายระดับโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ล้านบาท และสูงสุดอยู่ที่ราคามากกว่า 300 ล้านบาท บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 2,800 ตร.ม.”

การเข้าดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านที่ สปป.ลาวนั้น ทางดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ได้คู่ค้าทางธุรกิจ คือ บริษัท อินทรี กรุ๊ป จำกัด โดยคุณมโนธรรม เพชรศิริแสง ซึ่งเป็นนักธุรกิจแถวหน้าจากสปป.ลาว ซึ่งคุณสุรัตน์ชัยกล่าวว่า “การไปทำธุรกิจในต่างประเทศ แม้ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งสำคัญ คือ การได้คู่ค้าที่ดี เพราะเมื่อเราไปต่างถิ่นมักเกิด Barriers to Entry เนื่องจากเราไม่รู้ธรรมชาติของประเทศนั้นๆ หรือแม้กระทั่งช่องทางดำเนินงานเล็กๆ น้อยๆ ดังนั้น การได้คู่ค้าเจ้าถิ่นที่ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญในอันดับต้นๆ และทางอินทรี กรุ๊ป นั้น ด้วยพื้นฐานเดิมที่ประกอบธุรกิจหลายอย่าง อาทิ รับเหมาก่อสร้าง, ธุรกิจเหมืองแร่, ธุรกิจการท่องเที่ยว, ธุรกิจประกันภัย เป็นต้น ซึ่งมีเครือข่ายในการทำธุรกิจมาก อีกทั้งธุรกิจหลักของอินทรี คือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างซึ่งเรามั่นใจได้ว่าเรื่องแรงงานหรือ เรื่องวัสดุก่อสร้าง รวมถึงด้านกฎหมายการก่อสร้างนั้น เราจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องอื่นๆ เราก็คงได้รับการอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานเป็นอย่างดีเช่นกัน และสำหรับฝั่งไทย คือ ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ เป็นคนให้ Knowhow ความรู้ด้านการออกแบบ, การบริการลูกค้า, เทคนิคด้านการก่อสร้าง และที่สำคัญ คือ การนำแบรนด์ ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ไปสู่ประเทศลาว ในนาม “บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ บาย อินทรี จำกัด (The Emperor House by Insee Group)” โดยสิ่งที่จะได้เห็นในปีนี้ คือ การรุกเข้าไปทำการตลาดอย่างจริงจังที่ประเทศลาว เพื่อให้คนรู้จักบริษัทเรามากยิ่งขึ้น อาจจะเริ่มได้เห็นบิลบอร์ด หรือ ป้ายต่างๆ ของดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ และคาดว่าในปีนี้เราน่าจะได้ยอดขายประมาณ 100 ล้านบาท”

คุณมโนธรรม เพชรศิริแสง นักธุรกิจหนุ่มจาก สปป. ลาว กล่าวถึงการร่วมลงทุนในครั้งนี้ว่า “การร่วมลงทุนกับทางดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ในครั้งนี้ เพราะมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะประเทศลาวมีการเติบโตทางธุรกิจสูงขึ้นมาก เห็นได้จากมีการตัดถนนรอบเมืองเพื่อรองรับการเติบโตของเมืองในอนาคต, มีต่างชาติเข้ามาซื้อที่เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาฯ และสร้างห้างสรรพสินค้ามากขึ้น, มีการเติบโตของยอดขายรถยนต์ที่โตขึ้นถึง 200 — 300 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้, อีกทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายในการปรับเงินเดือนขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ซึ่งสัญญาณต่างๆ เหล่านี้สามารถแสดงได้ว่าคนลาวจะมีเงินมากขึ้น และเศรษฐกิจลาวก็กำลังดีวันดีคืน ดังนั้น การร่วมลงทุนกับทางดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ในครั้งนี้ผมจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะด้วยศักยภาพของดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ มีประสบการณ์มายาวนาน ที่สำคัญมีแบบบ้านที่สวย คุ้มกับราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายังหาอยู่ เพราะที่ลาวยังไม่มีบริษัทไหนที่สามารถออกแบบบ้านได้คุ้มราคา คุ้มค่าความหรูหราได้เท่ากับดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์

“ตามความเป็นจริงในธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น มีลักษณะที่แตกต่างจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพราะธุรกิจที่เราทำอยู่นั้น เราขายทั้งบริการ คุณภาพงาน และ ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ยังมีหน้าที่ในการสร้างความต้องการใหม่ๆ (Create Demand) สำหรับคนที่ต้องการสร้างบ้านในฝัน เพราะแบบบ้านของเราหาไม่ได้จากที่ไหน ตลาดของเราเป็นตลาดที่แตกต่างจากคนอื่นๆ (Unique) และเมื่อก้าวเข้าสู่ AEC นั้น ทำให้เรามีตลาดใหม่ ที่มีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกถึง 600 ล้านคน ซึ่งเมื่อกลุ่มลูกค้ามากขึ้น แน่นอนว่าคู่แข่งทางการค้าก็มากยิ่งขึ้นไปด้วย ดังนั้น อยู่ที่บริษัทแต่ละบริษัทว่าจะมีการปรับตัวเองแบบไหน สำหรับดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ แล้ว เรายังคงเห็นว่าเราเองสามารถนำพาตัวเองจากที่เป็นเจ้าตลาดในการสร้างบ้านพักอาศัยระดับสูง ของไทย ไปสู่ตลาด AEC ได้อย่างแน่นอน ด้วยจุดขายของเรา คือ ความต่างในตัวสินค้าที่มีมากกว่าเจ้าอื่น ซึ่งจุดนี้เป็นเป้าหมายใหม่ของดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีของเราด้วยครับ” นายสุรัตน์ชัยกล่าว

บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 โดยเริ่มต้นด้วยการดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างภายใต้ชื่อบริษัท เอ็มไพร์ กรุ๊ป จำกัด โดยรับสร้างบ้านหลังแรกในราคาเพียง 5 ล้านบาท จนกระทั่งในปี 2539 ได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทรับสร้างบ้านพักอาศัยระดับสูง โดยเน้นสไตล์การก่อสร้างแบบคลาสสิคเป็นสำคัญ และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด โดยปัจจุบันบริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด มีบริษัทในเครือทั้งสิ้นอีก 3 บริษัท เพื่อรองรับธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจออกแบบ/ก่อสร้างบ้านพักอาศัยระดับสูง, การออกแบบตกแต่งภายใน และตัวแทนจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากประเทศอิตาลี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ