พ.ญ.สุเนตรา ชินะผา ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น จำกัด หรือ จีเอสเค เปิดเผยว่า จีเอสเค ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทั่วโลกให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนเพื่อป้องกัน/รักษาโรคที่องค์การอนามัยโลกจัดให้เป็นปัญหาที่ร้ายแรงในประเทศกำลังพัฒนา อาทิ โรคเอดส์ วัณโรค และโรคมาลาเรีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกเฉลี่ยประมาณ 20,000 คนต่อวัน
“จีเอสเค มุ่งมั่นในการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนในเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการตอบสนองนโยบายระดับโลกของบริษัทฯในการดำเนินนโยบาย “ยาดีเข้าถึงได้” เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงยาและวัคซีนนวัตกรรมที่มีคุณภาพได้มากขึ้น โดยจัดตั้งศูนย์วิจัยในประเทศสิงคโปร์และเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน การเพิ่มงานวิจัยทางด้านคลินิก การวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสำหรับคนเอเชีย การพัฒนางานวิจัยเพื่อรักษาโรคที่มีการระบาดในเอเชียและประเทศกำลังพัฒนา สำหรับประเทศไทย จีเอสเค ได้มีโอกาสร่วมมือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงเรียนแพทย์ตลอดจนสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยต่างๆ เพื่อการวิจัยและพัฒนา โดยมีทั้งยาและวัคซีนสำหรับป้องกัน/รักษาทั้งโรคร้ายแรง โรคในเขตร้อน และโรคที่ถูกมองข้าม”
สำหรับโรคมาลาเรียเป็นโรคที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็น 1 ใน 4 โรคที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นโรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงปีละประมาณ 1 ล้านคนทั่วโลก และส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จีเอสเค จึงได้ร่วมมือกับ Medicines for Malaria Venture (MMV) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหากำไรและโรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งมีปัญหาโรคนี้ตามแนวชายแดน จัดทำโครงการวิจัยโรคมาลาเรีย เพื่อศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยาที่ใช้รักษาโรคมาลาเรีย โดยมุ่งหวังว่า ผลการวิจัยในโครงการจะมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชากรทั่วโลก”
ปัจจุบัน จีเอสเค มีโครงการวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนกว่า 150 โครงการทั่วโลก รวมที่อยู่ในกระบวนการวิจัยซึ่งใกล้ยื่นขึ้นทะเบียนประมาณ 30 ผลิตภัณฑ์ และคาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับอนุญาตประมาณ 8 ผลิตภัณฑ์ภายใน 2 ปีนี้ โดยในช่วงที่ผ่านมา จีเอสเค มีการพัฒนาและผลิตยาและวัคซีนนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีคุณภาพสำหรับการป้องกัน/รักษา โรคเอสแอลอีหรือโรคแพ้ภูมิตนเอง โรคมะเร็ง และโรคไข้เลือดออก ในจำนวนสูงสุดในอุตสาหกรรม รวมทั้งมีการต่อยอดการวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนทั่วโลก โดยการร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้องภายใต้แนวทางการดำเนินงานที่เปิดกว้าง เช่น การเปิดเผยข้อมูลด้านการศึกษาวิจัยทางคลินิกของจีเอสเค ทั้งผลเชิงบวกและลบ กว่า 4,500 เรื่องบนเว็บไซต์ ซึ่งมีผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ถึงเกือบ 10,000 ครั้งต่อเดือน รวมทั้งการเปิดให้นักวิจัยทั่วไปเข้าถึงข้อมูลของผู้ป่วยแบบไม่ระบุนามในการศึกษาวิจัยทางคลินิกของจีเอสเค โดยต้องขอเเละได้รับการพิจารณาอนุญาตการเข้าใช้ข้อมูลจากคณะผู้ชำนาญการอิสระ เพื่อนำไปศึกษาวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ต่อไป