นอกจากเด็กๆ ที่ไปจะได้ความรู้และเพิ่มความศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้นแล้ว ฉากนี้ก็ทำให้เด็กๆได้ตื่นเต้นดีใจกันใหญ่กับการได้ขึ้นรถม้าอินเดีย เป็นขบวนกว่า 10 คัน เพราะการจะเห็นรถม้าสักคันในประเทศไทยเราก็หาดูยากแล้ว อย่าว่าแต่เด็กๆ เลยที่ตื่นเต้น ทีมงานก็ด้วย แถมผู้กำกับคนเก่งนึกสนุกขอขับรถม้าพานักแสดงเดินทางไปถ่ายฉากนี้อีกด้วย พอไปถึงทุกคนก็ต้องตื่นตาที่ได้เห็นซากปรักหักพังของมหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยสงฆ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เมื่อได้เห็นครั้งแรกมีความรู้สึกคล้ายกับได้อยู่ที่กรุงศรีอยุธยาบ้านเรา
เริ่มถ่ายทำฉากนี้ คนรับบทหนักก็น่าจะเป็นไกด์โดโด้ที่ต้องอธิบายถึงประวัติของหลวงพ่อองค์ดำให้ลูกทัวร์ฟัง แต่เขาก็ทำได้อย่างดี เพราะชำนาญกับการเป็นไกด์อยู่แล้ว
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพุทธอีกองค์ที่ประดิษฐ์สถานอยู่ ณ ประเทศอินเดีย ชาวไทยมักเรียกกันว่า “หลวงพ่อองค์ดำ” เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินสีดำ พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระนาสิกวิ่นและนิ้วพระหัตถ์บิ่นเล็กน้อย ซึ่งมีอายุพันกว่าปี ตั้งอยู่ทางตะวันตกของมหาวิทยาลัยนาลันทา เหตุที่มีนาสิกวิ่น นิ้วพระหัตถ์บิ่นเพราะถูกพวกมุสลิมพาพวกมาทำลายสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งทุบทำลายพระพุทธรูป และเอกสารตำราทางพระพุทธศาสนาเอาเชื้อเพลิงมาสุมแล้วจุดไฟเผา จนทำให้คัมภีร์ตำราทางพระพุทธศาสนาทั้งเก่าและใหม่ ถูกไฟไหม้เกือบหมดสิ้น และสถานที่นี้ก็ได้ถูกเศษอิฐและหินทับถมจมลงใต้ดินเป็นเวลานานเกือบ 7 ศตวรรษ (700 ปี) คงเหลือไว้แต่ซากปรักหักพักอย่างที่เห็นกัน แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ขององค์ท่าน พวกมุสลิมไม่สามารถเผา หรือทุบองค์ท่านให้พังทลายลงได้จึงเป็นพระพุทธรูปที่เหลืออยู่องค์เดียวในบริเวณมหาวิทยาลัยนาลันทาแห่งนี้
นี่ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งในประเทศอินเดียที่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์จะพาท่านผู้ชมไปสัมผัสพร้อมความน่ารักใสซื่อของเด็กๆ รวมถึงความสวยงามแปลกตาและศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่ต่างๆ ของประเทศอินเดียในภาพยนตร์เรื่อง “ปัญญาเรณู 3 ตอน รูปูรูปี” ฉาย 7 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์