ศ.นพ.วุฒิชัย ธนาพงศธร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประธานจัดงานกาลาดินเนอร์การกุศลฯ เปิดเผยว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นการแถลงข่าวการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน ครบรอบ ๕๘ ชันษา จัดขึ้นโดยโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สืบเนื่องจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้จัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นเพื่อบริการรักษาประชาชน ปฏิบัติงานวิจัยทางคลินิกและเพื่อการเรียนการสอนนิสิตแพทย์ ณ อำเภอองครักษ์ จ.นครนายก โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระนามเป็นชื่อของโรงพยาบาลว่า....โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี.... และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2544 นอกจากนี้ยังทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ก่อตั้งกองทุนพระราชทาน เพื่อสงเคราะห์คนไข้ยากจนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงได้ริเริ่มจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติขึ้น และจะดำเนินการต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้เป็นวัฒนธรรมอันดีงามของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒสืบต่อไป สำหรับในปีนี้การจัดงานได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการระดมทุนถวายเป็นพระราชกุศล และ สมทบกองทุนพระราชทานสงเคราะห์ผู้ป่วยยากจนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และสร้างศูนย์เรียนรู้หัตถการทางการแพทย์ด้วยหุ่นจำลองสำหรับนิสิตแพทย์ มศว
ศ.นพ.วุฒิชัย ธนาพงศธร กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ประกอบด้วยกิจกรรมหลัก ๔ กิจกรรม สำหรับกิจกรรมแรกคือ งานสัปดาห์เฉลิมพระเกียรติ ในวันที่ 25-29 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อ. องครักษ์ จ.นครนายกโดยจะมีการให้บริการตรวจสุขภาพแก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า และจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งนิทรรศการทางการแพทย์ที่น่าสนใจ มีการจัดสัมนาให้ความรู้แก่ประชาชนทุกวัน กิจกรรมที่สองคือ งานกาลาดินเนอร์การกุศล ซึ่งจะจัด ณ รร.เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ แห่งนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2556 เวลา 16.00-22.00 น. โดยจะมีท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นประธานในพิธีถวายสักการะ ถวายพระพรแด่สมเด็จพระเทพฯ มีการแสดงโขนที่มีชื่อเสียงของนักเรียน รร. สาธิต มศว ประสานมิตร การแสดงประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ ส้มตำ โดยบุคลากรของโรงพยาบาล นอกจากนี้ มีศิลปิน ดาราหลายท่านให้เกียรติมาร่วมงานบนเวที เช่น คุณเบ็นซ์ พรชิตา ,คุณอี้ แทนคุณ เป็นพิธีกร คุณแพนเค็ก เขมนิจ คุณน้ำฝน พัชรินทร์ คุณรถเมล์ คะนึงนิจ และที่สำคัญ คือการกลับมารวมเต็มวง ของวงดนตรีดิอิมพอสซิเบิล นำโดย คุณ เศรษฐา ศิระฉายา กิจกรรมที่สาม คือการประชุมวิชาการนานาชาติ ศรีนครินทรวิโรฒวิชาการ ครั้งที่ ๗ ระหว่าง วันที่ ๑ ถึง ๒ เมษายน ๒๕๕๖ ประกอบด้วยวิทยากรที่มีชื่อเสียง อธิการบดีและคณบดี จากทั่วโลก และกิจกรรมที่สี่ คือการออกอากาศในรายการพิเศษเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพฯ ในวันอังคารที่ 2 เมษายน 2556 ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์น 9 ในเวลา 22.30-24.00 น. ซึ่งจะมีการให้บริการตอบปัญหาทางสุขภาพแก่ประชาชน และการรับบริจาคเงิน เพื่อถวายแด่สมเด็จพระเทพ โดยทำการบันทึกเทปของกิจกรรมทั้งหมดข้างต้น มาถ่ายทอดทีวีส่วนความเป็นมาของกองทุนพระราชทานเพื่อสงเคราะห์คนไข้ยากจนฯ นั้น ศ.นพ.วุฒิชัย ธนาพงศธร กล่าวว่า เกิดเนื่องจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริในการจัดทำโครงการต่างๆเพื่อพัฒนคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ทุรกันดารทั่วประเทศให้ดีขึ้น ทั้งทางด้านสุขภาพอนามัย การศึกษา การงานเพื่ออาชีพ การอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ภายหลังจากที่โปรดเกล้าให้ดำเนินโครงการต่างๆ แล้ว ยังทรงห่วงใยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเสด็จเยี่ยมราษฎรด้วย ในการเสด็จพระราชดำเนินแต่ละครั้ง ทรงพบว่ายังมีราษฎรอีกเป็นจำนวนมากที่เจ็บป่วยและมีปัญหาด้านสุขภาพอนามัย แม้ว่าจะโปรดเกล้าให้แพทย์ที่ตามเสด็จด้วยรักษา และทรงรับผู้ป่วยบางรายไว้เป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง ด้วยเหตุนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงโปรดเกล้าฯให้จัดตั้ง...หน่วยแพทย์พระราชทานขึ้น พระองค์ทรงตระหนักดีว่า ยังมีราษฎรอีกส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ จึงพระราชทานเงินจำนวนหนึ่งให้แก่โรงพยาบาล เพื่อจัดตั้งกองทุนพระราชทานเพื่อสงเคราะห์คนไข้ยากจนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนำไปใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยยากจนซึ่งทรงรับไว้ในพระราชานุเคราะห์ที่จำเป็นต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลและผู้ป่วยยากจนอื่นๆ ของโรงพยาบาลด้วย รวมทั้งใช้ในการออกหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ด้วย
ศ.นพ.วุฒิชัย ธนาพงศธร กล่าวถึงความเป็นมาของแนวความคิดในการจัดสร้างศูนย์การเรียนรู้หัตถการว่า เนื่องจาก ในอดีตการเรียนรู้หัตถการทางการแพทย์ต่างๆที่ใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย รวมทั้งหัตถการฉุกเฉินที่ใช้เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยอาการรุนแรง เบื้องต้นนิสิตแพทย์เรียนรู้โดยการสังเกตอาจารย์แพทย์หรือแพทย์รุ่นพี่ปฏิบัติในระหว่างการรักษาผู้ป่วย ต่อมาจึงเริ่มฝึกหัดปฏิบัติกับผู้ป่วย โดยเริ่มจากหัตถการง่ายๆก่อนและยากซับซ้อนขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้แม้ว่าจะทำด้วยความตั้งใจดีและอยู่ในการดูแลรับผิดชอบของอาจารย์แพทย์หรือแพทย์รุ่นพี่อย่างใกล้ชิดก็ตาม แต่ด้วยความไม่ชำนาญ ก็อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดการบาดเจ็บหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆขึ้นได้ ซึ่งอาจเกิดผลเสียและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ นำไปสู่การร้องเรียนและการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จนถึงฟ้องร้องแพทย์เป็นคดีอาญาเกิดมากขึ้นตามลำดับ ต่อมาโรงพยาบาลมีกระบวนการพัฒนาคุณภาพการรักษาพยาบาล รวมทั้งมีการประเมินและรับรองคุณภาพการรักษาพยาบาล ทำให้การทำหัตถการทางการแพทย์ในผู้ป่วย ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วย ส่งผลให้นิสิตแพทย์มีโอกาสฝึกการทำหัตถการทางการแพทย์ในผู้ป่วยจริงได้น้อยลง จึงต้องมีการพัฒนาวิธีการเรียนรู้ของนิสิตแพทย์ ซึ่งในปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างมาก ทำให้มีการประดิษฐ์หุ่นจำลองของมนุษย์เสมือนจริงได้อย่างน่าทึ่ง นำมาสู่การเรียนรู้ของนิสิตแพทย์ที่จะฝึกหัดการทำหัตถการทางการแพทย์ต่างๆในหุ่นจำลองได้อย่างไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนเกิดความสามารถเชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับของอาจารย์แพทย์แล้ว จึงสามารถปฎิบัติการในผู้ป่วยจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ดังนั้นคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้หัตถการทางการแพทย์ด้วยหุ่นจำลองสำหรับนิสิตแพทย์ มศว” ขึ้นเพื่อรองรับวัตถุประสงค์ดังกล่าว นอกจากนี้ในอนาคตยังอาจใช้เป็นศูนย์สำหรับการสอบปฎิบัติหัตถการทางการแพทย์ สำหรับนิสิตแพทย์จากสถาบันผลิตแพทย์อื่นๆทั่วประเทศอีกด้วย โดยศูนย์การเรียนรู้หัตถการทางการแพทย์ด้วยหุ่นจำลองสำหรับนิสิตแพทย์จะจัดตั้งขึ้น ณ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้แพทย์จาก มศว มีศักยภาพในการรักษาและปฏิบัติหัตถการทางการแพทย์ต่างๆได้อย่างเชี่ยวชาญ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไข้
อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมงานกาลาดินเนอร์การกุศล และผู้บริจาคเงินในครั้งนี้ สามารถนำใบเสร็จรับเงินของโรงพยาบาล มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี และมีสิทธิประโยชน์อื่นๆอีก เช่น ได้รับเข็มกลัดพระนามาภิไธย่อ เป็นเงิน ทองคำ หรือเข็มกลัดเพชร ตามเงื่อนไขที่กำหนด รวมทั้งจะได้รับการจารึกชื่อ-นามสกุล หน้าห้องพิเศษของโรงพยาบาล และบนแผ่นป้ายผู้มีอุปการคุณของโรงพยาบาล สำหรับท่านที่บริจาคเงิน 3 ล้านบาทขึ้นไป จะได้รับสิทธิเพิ่มเติมจากที่กล่าวมา คือสิทธิในการรักษาพยาบาลและตรวจสุขภาพ โดยไม่คิดมูลค่าตลอดชีวิต ในฐานะผู้มีอุปการคุณต่อโรงพยาบาลและคณะแพทยศาสตร์ มศว สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและจองบัตรเข้าร่วมงานได้ที่...คุณวรางคณา มาลัยวงศ์ โทร.081 648 0181 หรือ...คุณอรอุมา ทอหลุ 088 098 4407 ทุกวันในเวลาทำการ